posttoday

น้ำท่วม67: เชียงรายน้ำลดเร่งระบายจุดน้ำขัง เตือนภัยริมโขงปริมาณน้ำเพิ่ม

14 กันยายน 2567

สนทช.เผยสถานการณ์น้ำท่วมเชียงรายลด 15-16ก.ย.67กลับสู่ภาวะปกติ ติดเครื่องสูบน้ำเพิ่ม เร่งระบายน้ำท่วมขังชุมชน ประปาภูมิภาคเชียงรายสูบจ่ายน้ำบ่ายนี้ แจ้งเตือนพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง หนองคายสูงสุด 2.5เมตร

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่เชียงรายปัจจุบันปริมาณน้ำในพื้นที่ตัวเมืองเชียงรายมีแนวโน้มลดลงคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติประมาณวันที่ 15 – 16 ก.ย.67 เมื่อระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับตลิ่งแล้ว จะมีการเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากชุมชนลงสู่ลำน้ำโดยเร็วที่สุด ส่วนระบบประปาของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาสูบจ่ายน้ำให้ประชาชนได้ประมาณเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (14 ก.ย. 67)

เครดิตภาพปก เทศบาลนครเชียงราย แสดงให้เห็นปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่

เร่งระบายน้ำขังพื้นที่ชุมชน 

สทนช. ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมสำหรับการระบายน้ำในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยสถานการณ์น้ำในพื้นที่เชียงรายมีแนวโน้มลดลงและคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 15-16 กันยายนนี้ โดยมีแผนเร่งระบายน้ำ โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของ GISTDA เข้าสนับสนุนพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ปริมาณฝนบริเวณภาคเหนือตอนบนจะลดลง แต่จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่บางส่วนของภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง นอกจากนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นจากอิทธิพลของพายุยางิ จะส่งผลกระทบต่อบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เตือนภัยจังหวัดริมโขง ปริมาณเพิ่มขึ้นสูงสุด 2.5เมตร 

ขณะนี้สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย มีน้ำล้นตลิ่งประมาณ 30 ซม. และมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้นถึงประมาณ 1 – 1.5 ม. ขณะเดียวกันที่สถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย มีน้ำล้นตลิ่งประมาณ 60 – 90 ซม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1.5 – 2.5 ม.สทนช. ได้มีประกาศแจ้งเตือนพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขงล่วงหน้าเพื่อให้หน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในเชิงป้องกันเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

"จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่โรงพยาบาลและสถานที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ริมตลิ่งที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม ซึ่งจะต้องแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งเตรียมแผนเคลื่อนย้ายอพยพและจัดหาศูนย์พักพิงให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ"