CPAXT-CPALL ดิ่งหนัก กดมาร์เก็ตแคปวูบแสนล้าน กังวลลงทุน The Happitat ฉุดกำไร
ราคาหุ้น CPAXT ร่วงแรง 18.71% CPALL โดนหางเลข ลด 6.80% ฉุดมาร์เก็ตแคปรวม วูบกว่า 105,957 ล้านบาท หลังตั้ง AGP เข้าลงทุน The Happitat ชี้แจง ตลท. ลงทุนรอบคอบ ต่อยอดธุรกิจ Mixed-Use Development โบรกฯ ประเมินมีดอกเบี้ยจ่าย 300 ล้านบาท ในปี 68 และ CAPEX เพิ่ม ฉุดกำไรปี 68-69 ลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ธ.ค.) ล่าสุด เวลา 16.07 น. ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ลดลง 18.71% หรือลดลง 6.50 บาท มาอยู่ที่ 28.25 บาท ปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 30.00 บาท ปรับตัวลงไปทำราคาต่ำสุดที่ 28.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,257.67 ล้านบาท
ราคาหุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ลดลง 6.80% หรือลดลง 4.25 บาท มาอยู่ที่ 58.25 บาท ปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 60.00 บาท ปรับตัวลงไปทำราคาต่ำสุดที่ 57.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,689.63 ล้านบาท
จากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงดังกล่าว ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของ CPAXT อยู่ที่ 294,581.45 ล้านบาท ลดลง 67,779.80 ล้านบาท จากวันที่ 13 ธ.ค.2567 มาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 362,361.25 ล้านบาท และมาร์เก็ตแคป ของ CPALL อยู่ที่ 523,265.65 ล้านบาท ลดลง 38,178.18 ล้านบาท จากวันที่ 13 ธ.ค.2567 มาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 561,443.83 ล้านบาท รวมมาร์เก็ตแคปทั้ง 2 บริษัท ลดลง 105,957.98 ล้านบาท
หลังจาก CPAXT ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยทางตรงคือ บริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด (AGP) โดย AGP จะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทย่อยทางอ้อม คือ บริษัท แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ จำกัด (HATF) ในสัดส่วน 100% (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ภายใต้โครงการชื่อ The Happitat
ล่าสุด วันนี้ (16 ธ.ค.) CPAXT แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า การเข้าลงทุนของบริษัทในครั้งนี้ เป็นการเข้าร่วมลงทุนในหุ้นของ AGP โดยบริษัทเข้าลงทุนในสัดส่วน 95% โดยการชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP เป็นเงินสดจำนวนประมาณ 7,970 ล้านบาท และบริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าลงทุนในสัดส่วน 5% โดยชำระค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ด้วยทรัพย์สิน คือ หุ้นใน HATF ในสัดส่วน 100% (ยกเว้นหุ้น 1 หุ้น)
คณะกรรมการของบริษัทได้พิจารณาอนุมัติให้บริษัทเข้าทำการร่วมลงทุนในโครงการ The Happitat โดยพิจารณาความเหมาะสมของการร่วมลงทุนและมูลค่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้อย่างรอบคอบ โดยมีการพิจารณามูลค่าทรัพย์สินในโครงการ The Happitat ซึ่งได้มีการประเมินมูลค่าโดยผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเห็นว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและเป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทในส่วนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) โดยคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทมิได้มีความเห็นแตกต่างจากความเห็นของคณะกรรมการของบริษัท
ทั้งนี้ รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยง และขนาดรายการเมื่อพิจารณาจากเงินค่าหุ้นที่ออกใหม่ของ AGP ซึ่งบริษัทชำระเป็นเงินสดจานวนประมาณ 7,970 ล้านบาท มีขนาดรายการสูงสุด 1.49% และเมื่อพิจารณารวมจำนวนเงินที่คาดว่าจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการ The Happitat แล้วเสร็จ การร่วมลงทุนของบริษัทในโครงการ The Happitat จะมีขนาดรายการสูงสุดต่ำกว่า 15% จึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญตามข้อกำหนดของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน ลงวันที่ 31 ส.ค.2551 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศที่เกี่ยวข้อง
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุว่า CPAXT จัดตั้งบริษัทย่อย คือ AGP เพื่อลงทุนและพัฒนาพัฒนาอสังหาฯ แบบมิกซ์ยูส อย่างเดอะ แฮปปี้แทท เงินลงทุนเริ่มแรกอยู่ที่ราว 8,000 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมประมาณ 12,000 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2569 ก่อนที่โครงการจะแล้วเสร็จ CPAXT จะมีดอกเบี้ยจ่ายประมาณ 300 ล้านบาท ในปี 68 และ CAPEX เพิ่ม ซึ่งจะส่งผลให้กำไรลดลง 2.9% และ 6.4% ในปี 2568-2569 จึงปรับราคาเปย้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจาก 38.6 บาท เป็น 38.5 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ขณะที่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มีมุมมองเชิงลบต่อดีลนี้ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ
1) ผลกระทบเชิงลบต่อกำไรของ CPAXT ในปี 2568 ลดลง 3% และการขาดทุนเพิ่มเติมในช่วงเริ่มดำเนินงาน
2) การแข่งขันที่รุนแรงในพื้นที่บางนา ซึ่งรวมถึง Mega Bangna, Central Bangna และ Bangkok Mall ที่คาดว่าจะเปิดในปี 2570
3) ความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการใหม่ที่เป็น “ตลาดใหม่” สำหรับ CPAXT ในด้านโครงการแบบมิกซ์ยูสและพื้นที่สำนักงานให้เช่า
ดังนั้น คาดว่าจะมี Sentiment เชิงลบต่อทั้ง CPAXT และ CPALL ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CPAXT (ถือหุ้น 59.93%) อย่างไรก็ตาม คาดว่า Sentiment เชิงลบต่อ CPALL จะมีผลกระทบต่อกำไรสุทธิน้อยมาก และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPALL หากราคาหุ้นอ่อนตัว