จับตาเปลี่ยนขั้วการเมืองสหรัฐฯ หลัง “ทรัมป์” รับตำแหน่ง หนุนราคาทองคำไปต่อ
YLG เปิด 3 ปัจจัย “PBOC กลับเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2-เศรษฐกิจโลกปี 68 เสี่ยงชะลอตัว-เปลี่ยนขั้วการเมืองของสหรัฐฯ” หนุนทองคำไปต่อ เก็งกำไรระยะสั้น หาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 2,652-2,634 ดอลลาร์ และขายทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้าน 2,684-2,705 ดอลลาร์
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่าในช่วงต้นปี 2568 ราคาทองคำได้ค่อยๆ ปรับตัวขึ้น ในกรอบทิศทาง Sideway up และขึ้นไปทำระดับสูงสุดไว้ที่ระดับ 2,698 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยซ์ออนซ์ ซึ่งนับว่าไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลที่เคยทำเอาไว้ที่ระดับ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยซ์ออนซ์
โดยสิ่งน่าสังเกตคือ การแกว่งตัวของราคาทองคำในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นไปในทิศทางเดียวกันกับดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งกลายมาเป็นกำลังซื้อหลักในการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงนี้ ทั้งนี้ ยังมีหลายปัจจัยสำคัญที่มากระทบ ประกอบด้วย
1. การกลับเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ของธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยได้ทำการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.30 แสนทรอยออนซ์ ในเดือน ธ.ค. สู่ระดับการถือครองรวมทั้งสิ้น 73.29 ล้านทรอยออนซ์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้หยุดทำการซื้อไป 6 เดือน จึงแสดงให้เห็นว่า PBOC ยังมีความต้องการทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของทุนสำรอง แม้ว่าราคาจะยังย่อตัวลงมาจาก All Time High ไม่มากก็ตาม
2. นักลงทุนเริ่มจับตาต่อความเสี่ยงในการเกิดการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกครั้งใหม่ หลังจากที่ “คริสตาลินา กอร์เกียวา” กรรมการจัดการของ IMF ได้กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงจากนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
3. สิ่งที่ตลาดกำลังจับตามากที่สุดจึงเป็น ในช่วงที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังเตรียมเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยเฉพาะนโยบาย “การตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า” ขณะที่ในวันนี้ (14 ม.ค.) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ทีมเศรษฐกิจของ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีอย่างค่อยเป็นค่อย ซึ่งจะส่งผลช่วยให้สหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในอัตราเงินเฟ้อที่อาจพุ่งขึ้นจากนโยบายดังกล่าวได้ จนเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่สำคัญของทองคำในระยะนี้
นอกจากนี้ นายทรัมป์ ยังได้มีการกล่าวสุนทรพจน์ ที่แสดงความประสงค์ในการ ควบรวมดินแดนต่างๆ ทั้งแคนาดา ปานามา และกรีนแลนด์ ซึ่งถึงแม้แนวคิดนี้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็ทำให้ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นที่จับตามอง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองนี้ จะเป็นที่น่าจับตาของตลาดอย่างมาก เนื่องจากจะมีกระแสข่าวที่มีความผันผวน อาทิ จากสำนักข่าว CNN ที่เคยได้รายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ เพื่อปิดทางใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีในทันที จนเป็นปัจจัยกดดันให้ทองคำผันผวน และถูกขายทำกำไรอยู่ช่วงหนึ่ง
ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำช่วงนี้ YLG แนะนำสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น ด้วยการหาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 2,652-2,634 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และขายทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้าน 2,684-2,705 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มองเคลื่อนไหวในกรอบ 43,250-44,400 บาทต่อบาททองคำ โดยทองคำแท่ง 96.5% จะได้อานิสงส์ในเชิงบวกมากขึ้น เนื่องจากได้ปัจจัยหนุนจากราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น พร้อมการอ่อนค่าของค่าเงินบาท