posttoday

ศึก DELTA-PTT ถล่ม SET เน้นสะสม 4 หุ้นโหนกระแสเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

14 มกราคม 2568

หุ้นไทยเผชิญแรงขาย DELTA - PTT ถล่มหนัก ปิดร่วง 14.09 จุด แตะ 1,340.25 จุด สิ้นมนต์ขลังเสวนา "ทักษิณ" ลากหุ้นกระทิง ด้าน "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ชี้เป้าจังหวะย่อ AOT - ERW - VGI - ROCTEC สวยรับธีมเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

KEY

POINTS

  • แรงขาย DELTA-PTT ถล่มหุ้นไทยปิดร่วง 14.09 จุด แตะ 1,340.25 จุด
  • "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ชี้เป้าจังหวะย่อ AOT - ERW - VGI - ROCTEC สวยรับธีมเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ทุกครั้งที่ "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ขึ้นกล่าวเสวนาเวทีใดมักสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดหุ้นไทยบวกคึกคัก แต่ครั้งนี้กลับสวนทาง ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้(14 มกราคม 2568) แตะระดับ 1,340.25 จุด ลดลง -14.09 จุด คิดเป็น -1.04% มูลค่าการซื้อขาย 56,470.69 ล้านบาท

ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,363.86 จุด และลดลงต่ำสุด 1,340.25 จุด เผชิญแรงขายหุ้นบิ๊กแคป DELTA , PTT ร่วงหนัก อาจด้วยความกังวลนโยบาย "โดนัล ทรัมป์" ชัดเจนหลังเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.2568 นี้อาจก่อเกิดสงครามการค้าที่ยากเกินความคาดเดา

ศึก DELTA-PTT ถล่ม SET เน้นสะสม 4 หุ้นโหนกระแสเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

5 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ดังนี้

1. DELTA ปิดที่ 143.50 บาท ลดลง 5 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7,741.15 ล้านบาท

2. PTT ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,577.34 ล้านบาท

3. GULF ปิดที่ 58.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,343.73 ล้านบาท

4. INTUCH ปิดที่ 98.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,014.80 ล้านบาท

5. TRUE ปิดที่ 11.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,776.65 ล้านบาท

ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิถึง 2,187.18 ล้านบาท สถาบันขายอีก 569.10 ล้านบาท สวนทางนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 1,895.96 ล้านบาท บวกแรงซื้อโบรกเกอร์ อีก 860.32 ล้านบาท 

โผหุ้นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวกับ "โพสต์ทูเดย์" ว่า การปาฐกถาของดร.ทักษิณมีหลากหลายประเด็นที่น่าจับตา โดยเฉพาะการลงทุนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีความคืบหน้าอย่างมาก หลังจาก ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แน่นนอนว่าโครงการนี้มีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ย่อมส่งผลบวกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น การจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น คอนเสิร์ตและสวนสนุกช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นอกจากนี้ การลงทุนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะมีสัดส่วนของคาสิโนเพียง 10% เท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเน้นไปที่กิจกรรมที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม , สายการบิน , ค้าปลีก รวมถึงกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรม เช่น บริษัทที่จัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ ซึ่งจะมีโอกาสในการสร้างรายได้จากการจัดงานในคอมเพล็กซ์

หุ้นที่ได้อานิสงส์เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อาทิ กลุ่มของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS อย่าง บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI , บริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ ROCTEC กลุ่มสายการบินและโรงแรม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT , บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW 

ส่วนกรณีที่คุณทักษิณมีแผนที่จะดึงบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ , ดาต้าเซ็นเตอร์ และเทคโนโลยี AI เข้ามาในตลาดหุ้นไทย หากทำได้ตามเป้าประสงค์ย่อมเป็นเรื่องที่ดี นอกจากช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การสร้างงานในประเทศ ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดหุ้นไทย