เจ้าหน้าที่เร่งสกัดไฟป่าลอสแอนเจลิส หลังลมทะเลทรายซ้ำเติมสถานการณ์

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 8,500 นาย จากเจ็ดมลรัฐและสองประเทศ ได้ระดมกำลังเข้าควบคุมไฟป่าขนาดใหญ่สองจุดในเขตลอสแอนเจลิส เป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยสามารถควบคุมเพลิงได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ทั้งลมทะเลทรายและภูมิประเทศที่แห้งแล้ง 

ปฏิบัติการดับไฟดำเนินการทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 มกราคม โดยใช้เครื่องบินทิ้งน้ำและสารหน่วงไฟ ควบคู่กับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่ใช้อุปกรณ์และสายฉีดน้ำ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการทางอากาศต้องหยุดชะงักเป็นระยะเนื่องจากกระแสลมแรง โดยนักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าสภาวะเสี่ยงสูงจะยังคงอยู่จนถึงวันพุธ

เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย และสิ่งปลูกสร้างกว่า 12,000 หลังได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่าอาจเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สร้างความเสียหายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดย AccuWeather ประเมินความเสียหายเบื้องต้นระหว่าง 135,000-150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ล่าสุด มีการฟ้องร้องกรมน้ำและพลังงานลอสแอนเจลิส (LADWP) ในข้อหาบกพร่องต่อการบริหารจัดการน้ำ โดยคำฟ้องระบุว่าอ่างเก็บน้ำ Santa Ynez ซึ่งมีความจุ 117 ล้านแกลลอน ว่างเปล่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจาก LADWP ชะลอการซ่อมบำรุงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ถังเก็บน้ำสามแห่งหมดลงภายในวันเดียวหลังเกิดเพลิงไหม้

คดีฟ้องร้องนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 20 ราย และเผาผลาญพื้นที่นับหมื่นเอเคอร์ในเขตลอสแอนเจลิส