ท่าที “ทรัมป์” หลังสาบานตน ไม่แข็งกร้าว หนุน SET ฟื้นตัว กรอบ 1,330-1,360 จุด
บล.ลิเบอเรเตอร์ คาดหุ้นไทยฟื้นตัวในกรอบ 1,330-1,360 จุด ท่าที “ทรัมป์” หลังสาบาตนเข้ารับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ ไม่ได้แข็งกร้าว ยังไม่ได้รีบใช้มาตรการขึ้นภาษีทั่วโลก ทำให้ตลาดคลายกังวล กระตุ้นแรงเก็งสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แนะสะสม “KKP” เคาะเป้า 54 บาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา โดนัล ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการ โดยจุดที่ตลาดทั่วโลกจับตามอง คือ คำสั่งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งพบว่าทรัมป์ ยังไม่ได้ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรอย่างที่ตลาดกังวลไว้ โดยทำเพียงวางแผนบันทึกความเข้าใจฉบับกว้างๆ โดยสั่งให้หน่วยงานรัฐบาลกลางศึกษานโยบายทางการค้าและแก้ไขการขาดดุลการค้าที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยประเทศที่อาจจับตาเป็นพิเศษ คือ จีน แคนาดา และเม็กซิโก
อย่างไรก็ดี ท่าทีพบว่าไม่ได้แข็งกร้าวอย่างที่ตลาดกังวล ซึ่งจะส่งผลให้ Dollar Index มีโอกาสอ่อนค่า (วานนี้ -1.15% ลงสู่ 108.09 จุด) และกระตุ้นแรงเก็งในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น คาดส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้มีโอกาสขยับขึ้น
ส่วนมาตรการด้านพลังงาน จะมีการลงนามคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารเพื่อยืนยันความตั้งใจในการสนับสนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล และให้คำมั่นว่าจะพาสหรัฐฯ ออกจากความตกลงปารีส ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อกำหนดมาตรการในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งจะยกเลิกการสนับสนุนรถไฟฟ้า และหนุนการขุดเจาะน้ำมันดิบ เพื่อลดค่าครองชีพ โดยวานนี้ราคาน้ำมันดิบชะลอ -1.2%
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ SET ยังอยู่ในช่วงสร้างฐานท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง อย่างไรก็ดี จากปัจจัยภายนอกที่ดีขึ้น น่าจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดวันนี้ฟื้นตัว
คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1,330-1,360 จุด ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ได้รีบใช้มาตรการขึ้นภาษีทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวล กระตุ้นแรงเก็งสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ยังมองเป็นจังหวะทยอยสะสม เน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการเด่น
สำหรับวันนี้แนะนำสะสม “KKP“ ราคาเป้าหมาย 54.00 บาท โดยรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 ที่ 1,406 ล้านบาท (+110%y-y, +8%q-q) ดีกว่าตลาด 37%
แรงหนุนหลักจากค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่ง และกำไรจากเงินลงทุน (FVTPL) ที่มากกว่าคาด ส่วนแนวโน้มผลขาดทุนรถยึดลดลง -22%y-y, -10%q-q แต่ด้าน NPL ratio ขึ้นเล็กน้อยสู่ 4.2% จาก 4.1% ส่วนด้านอัตราปันผลคาดยังน่าดึงดูดที่ระดับ 6% ต่อปี