ทรัมป์เรียกร้องลดราคาน้ำมัน-ดอกเบี้ย หนุน SET ฟื้นตัวกรอบ 1,330-1,360 จุด
บล.ลิเบอเรเตอร์ คาดหุ้นไทยฟื้นตัวในกรอบ 1,330-1,360 จุด ทรัมป์เรียกร้องการลดราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย รวมถึงยุติสงครามยูเครน จับตาการประชุม BOJ แนะตั้งรับหุ้นแนวโน้มกำไรขยายตัวเด่น ชู “BBIK” เคาะเป้า 50 บาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ในการประชุม World Economic Forum ล่าสุดที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ เรียกร้องให้ซาอุดิอารเบีย และกลุ่มโอเปค ปรับลดราคาน้ำมันดิบลง รวมถึงต้องการให้รัสเซียยุติสงครามยูเครน โดยมีการขู่ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากรัสเซีย รวมถึงการคว่ำบาตรที่เพิ่มขึ้น
โดยแรงกดดันด้านพลังงานของทรัมป์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ วานนี้ปิดย่อตัว -1.35% ลงสู่ระดับ 77.9 เหรียญต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ คาดยังเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงงานต้นทุน อย่างไรก็ดีถือเป็นปัจจัยบวกต่อภาพเศรษฐกิจ และบริษัทที่ต้องใช้ต้นทุนพลังงานสูง
นอกจากนี้ ในสุนทรพจน์ของทรัมป์ ยังมีการเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที ส่งผลให้วานนี้ Dollar Index ยังอ่อนค่าอีกเล็กน้อย ดังนั้นคงต้องเกาะติดท่าทีของ FED ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 28-29 ม.ค. โดยล่าสุดตลาดยังคาดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปีนี้จะลดราว 1-2 ครั้ง (เริ่มในช่วงกลางปี)
ส่วนปัจจัยวันนี้แนะติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยคาด BOJ จะปรับอัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นขึ้น 0.25% สู่ระดับ 0.5% ซึ่งอาจกระตุ้นการแข็งค่าของค่าเงินเยนในช่วงถัดไป ส่วนไทยยังแนะติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2567 โดยเน้นย่อตั้งรับหุ้นแนวโน้มกำไรเด่น ผสานกับหุ้นคาดจ่ายปันผลสูง
คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1,330-1,360 จุด ทรัมป์เรียกร้องการลดราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย รวมถึงยุติสงครามยูเครน คาดเป็นจิตวิทยาบวกกระตุ้นตลาดหุ้นฟื้นตัว ขณะที่วันนี้แนะเกาะติดประชุม BOJ คาดปรับดอกเบี้ยญี่ปุ่นขึ้นสู่ระดับ 0.5% กลยุทธ์แนะตั้งรับหุ้นแนวโน้มกำไรขยายตัวเด่น
สำหรับวันนี้แนะนำ “BBIK” ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 ที่ 93 ล้านบาท ทำจุดสูงสุดใหม่ จากการเข้าสู่ช่วง High Season และการขยายทีมงานเพิ่มเติม
แนวโน้มไตรมาส 1/2568 ยังไปได้ดี แม้จะเป็นช่วง Low season โดยจะรับรู้งานดิจิตอลวอลเล็ทของรัฐบาลที่มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงเดือน มี.ค.2568 ซึ่งคาดคิดเป็น 20% ของรายได้รายไตรมาส
ส่วนภาพปี 2568 คาดเติบโตแกร่ง +32% ตามเทรนด์ Digital Transformation ที่อยู่ในช่วงเร่งตัว