posttoday

ผ่างบ "10 หุ้นอสังหาฯ" กำไรไตรมาส 4/67 ใครรุ่ง-ร่วง ?

27 มกราคม 2568

"อสังหาริมทรัพย์" ยังวิกฤติ ยอดเปิดโครงการใหม่และยอดขายปี 2567 ต่ำสุด อนาคตปี 2568 ไร้แววฟื้น ฉุดงบไตรมาส 4/2567 วูบเกือบยกกลุ่ม "LH - SC - ORI"แทงสวนอวดกำไรแกร่ง

KEY

POINTS

  • อสังหาฯยังวิกฤติ ยอดเปิดโครงการใหม่-ยอดขายปี 67 ต่ำสุด อนาคตปี 68 ไร้แววฟื้น
  • งบไตรมาส 4/67 วูบเกือบยกกลุ่ม "LH - SC - ORI"แทงสวนอวดกำไรแกร่ง

หุ้นกลุ่ม "อสังหาริมทรัพย์" อาการน่าเป็นห่วง! สถานการณ์ยอดเปิดโครงการใหม่และจำนวนยูนิตที่ขายได้ในปี 2567 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวในปี 2568 กลับไม่ปรากฎ เนื่องด้วยภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคไม่สู้ดี

ขนาดที่ว่าบิ๊กอสังหาฯอย่าง "บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH" ยอมรับว่าปีนี้เหนื่อย ตลาดบ้านแข่งขันรุนแรงและยังมีอุปสรรคหลายด้านจนต้องปรับแผนเปิดโครงการใหม่อย่างระมัดระวัง พร้อมคุมต้นทุนและกระแสเงินสด!

ด้วยแรงกดดันที่ยืดเยื้อยาวนานไร้มาตรการรัฐออกมาหนุนชัดเจน ฉุดผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 ของกลุ่มอสังหาฯวูบหนัก จากการสแกนข้อมูล "10 หุ้นอสังหาฯ" อิงมุมมองโบรกเกอร์หลายสำนักและสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) พบว่า บริษัทที่มีกำไรเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน(QoQ)และช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) คือ "บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI" คาดมีกำไร แตะระดับ 482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% เทียบกับไตรมาสก่อน(QoQ) และเพิ่มขึ้น 925.53% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY)  

ขณะที่ "บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH" คาดกำไร 2,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270.3% QoQ แต่ลดลง -31.1% YoY , "บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC" คาดมีกำไร 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.15% QoQ แต่ลดลง -38.07% YoY และ "บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH" คาดกำไร 321 ล้านบาท ลดลง -13.94% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 161% YoY

ผ่างบ \"10 หุ้นอสังหาฯ\" กำไรไตรมาส 4/67 ใครรุ่ง-ร่วง ?

Q4/67 ทรงตัว - ปี 68 ฟื้นจำกัด

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 4/67 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำได้เพียงทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ผลจากการโอนที่ชะลอตัวตาม Presales ที่ลดลง และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) โดนกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง โดยผลประกอบการปี 67 ของกลุ่มฯภายใต้ Coverage ฝ่ายวิเคราะห์คาดลดลง 19% จากปีก่อน

ขณะที่ภาพการเติบโตปี 68 ยังคงท้าทาย การฟื้นตัวทำได้อย่างจำกัดจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ฝ่ายวิเคราะห์คาดผู้ประกอบการชะลอการเปิดโครงการใหม่ปี 68 คาดมูลค่าลดลงจากปีก่อน โดยหันมาเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวสูง เน้น Segment กลาง-บน ขณะที่โครงการแนวราบเน้นการระบายสินค้าคงคลังเดิม

ดังนั้นคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มฯ Neutral ปัจจุบันราคาหุ้นกลุ่มฯ ซื้อขายบน PER ต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และมี Dividend Yield สูง 7-8% ต่อปีแนะนำเลือกลงทุนเป็นรายตัว

เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เน้นถือรอรับเงินปันผล เลือก บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ราคาเป้าหมาย 22.80 บาท , บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ราคาเป้าหมาย 2.14 บาท , บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท จากการรักษาส่วนแบ่งในตลาดปี 67 เด่นกว่ากลุ่มฯ , ความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น และ ความเสี่ยงทางด้านการเงินอยู่ในระดับต่ำ

"บ้านเพื่อคนไทย" ดีต่อใคร ? สึนามิ "อสังหาฯ"

หั่นกำไรยกกลุ่มฯ "AP"ปันผล7%

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ปรับลดประมาณการกำไรรวมกลุ่มอสังหาฯปี 67 ลดลง 4% และในปี 68 กำไรรวมลดลง 8% บนสมมติฐานรายได้ที่เติบโตช้าลงและอัตรากำไรสุทธิ (net margin) ต่ำลง ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯต่างๆของรัฐบาล รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองได้หมดอายุไปแล้วเมื่อสิ้นปี67 จึงคาดว่าบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายรายจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆสูงขึ้นในการผลักดันยอดขายไปจนกว่าจะมีมาตรการกระตุ้นชุดใหม่ออกมา

เมื่ออิงจากประมาณการใหม่กำไรสุทธิรวมปี 67 อาจลดลง 25% จากปีก่อน และฟื้นตัวเล็กน้อย 5% ในปี 68 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเดิมอยู่ที่ 9% ผลภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคชะลอตัวกว่าคาด จึง de-rating ราคาเป้าหมายลง โดยอิงกับ P/E ที่มีส่วนลดที่ระดับ -1 S.D. หรือมากกว่าจากเดิม -0.5 S.D. ถึงระดับค่าเฉลี่ย 

ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯลงและปรับลดน้ำหนักลงทุนลงเป็น “น้อยกว่าตลาดฯ” จากเดิม “เท่ากับตลาดฯ” เนื่องจากวัฏจักรขาลงของภาคธุรกิจอสังหาฯยืดเยื้อ จึงคงคำแนะนำถือ SPALI, LH, QH, PSH และแนะนำขาย LPN , ORI อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯอยู่ระหว่างทบทวนคำแนะนำหุ้น AP ซึ่งมีแนวโน้มที่จะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายด้วย dividend yield สูงน่าสนใจราว 7% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

แข่งเดือดฉุดกำไร เชียร์ AP-SC

บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรของกลุ่มฯไตรมาส 4/67 ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากยอดโอนที่ต่ำลงตาม Presales ที่อ่อนแอและอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากการแข่งขันที่สูง ทำให้ปี 67 คาดกำไรกลุ่มฯ -18% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ส่วนแนวโน้มปี 68 ยังท้าทาย คาด Segment mid-to-high เป็นกำลังซื้อหลักและคอนโดยังดีกว่าแนวราบ ดังนั้นคงน้ำหนักลงทุน "Neutral" เลือก Top pick คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท และ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ราคาเป้าหมาย 3.20 บาท