เกมเปลี่ยน! SC รุก "รีแบรนด์-เสริมภาพลักษณ์-ขยายธุรกิจ" ครั้งแรกรอบ 18 ปี

เกมเปลี่ยน! SC รุก "รีแบรนด์-เสริมภาพลักษณ์-ขยายธุรกิจ" ครั้งแรกรอบ 18 ปี

20 กุมภาพันธ์ 2568

"ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" สั่งปรับโฉม "เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)" ครั้งแรกในรอบ 18 ปี "รีแบรนด์-เสริมภาพลักษณ์-รุกธุรกิจใหม่" เสริมทัพรายได้ในอนาคต พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะระดับ 25,000 ล้านบาท เติบโต 11% ยอดขาย 26,000 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" สั่งปรับโฉม "เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)" ครั้งแรกในรอบ 18 ปี "รีแบรนด์-เสริมภาพลักษณ์-รุกธุรกิจใหม่"
  • ตั้ง

สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568 ยังคงเผชิญ 4 อุปสรรคสำคัญ คือ "หนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง" แม้ว่ามูลค่าหนี้จะไม่โตมาก แต่ยังเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้จ่ายและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ด้าน "อุปทานโอเวอร์ซัพพลาย" ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการสร้างบ้านและคอนโดมิเนียมมากเกินไป โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว ส่งผลให้มีสินค้าคงคลังมากเกินไปในทุกระดับราคา 

รวมถึง "ความระมัดระวังของผู้บริโภคและธนาคาร" ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยกู้ ทำให้การเข้าถึงเงินทุนเพื่อซื้อบ้านเป็นเรื่องยากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเข้ามาเพิ่มและสร้างความผันผวนก็คือเรื่อง "ภูมิรัฐศาสตร์" สถานการณ์เหล่านี้ทำให้การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจใช้เวลานานถึง 2-3 ปี

เกมเปลี่ยน! SC รุก \"รีแบรนด์-เสริมภาพลักษณ์-ขยายธุรกิจ\" ครั้งแรกรอบ 18 ปี

"ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SC ย้ำชัดเจนว่า ด้วย 4 อุปสรรคที่สำคัญที่มีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นที่มาของการที่ SC ต้องเร่งปรับตัวครั้งสำคัญในรอบ 18 ปี เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และ เติบโตสร้างคุณค่าได้อย่างยั่งยืน

ด้วยการ Reform 3 เรื่อง คือ "ปรับพอร์ตโฟลิโอ 3 ธุรกิจ" เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยธุรกิจแรก คือ อสังหาฯที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ในปี 68 นี้บริษัทมีทั้งหมด 96 โครงการ มูลค่ารวม 94,500 ล้านบาท เป็นโครงการใหม่ 15 โครงการ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 12 โครงการ 18,000 ล้านบาท

ไฮไลต์ คือ แบรนด์ใหม่ SONLE บ้านเดี่ยวสไตล์ Sophisticated Modern Tropical ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ 2025 แบรนด์ Bangkok Boulevard

เกมเปลี่ยน! SC รุก \"รีแบรนด์-เสริมภาพลักษณ์-ขยายธุรกิจ\" ครั้งแรกรอบ 18 ปี

อีก 3 โครงการคือ คอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ Reference และ COBE ต่อยอดความสำเร็จคอนโด SC สะท้อนจากยอดขาย Reference เอกมัย สร้างยอดขายได้ถึง 80% นับตั้งแต่เปิดตัว พร้อมแบรนด์ใหม่เตรียมเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ทำเลติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์

ธุรกิจต่อมา คือ อสังหาฯสร้างรายได้ประจำ อาทิ โรงแรม, คลังสินค้า, อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐฯ ซึ่งในช่วงปลายปีนี้จะมีโครงการรวมทั้งหมด 19 โครงการ จาก 4 ธุรกิจ ได้แก่ โรงแรมรวม 545 ห้อง, คลังสินค้าให้เช่ารวม 200,000 ตารางเมตร, อาคารสำนักงาน 120,000 ตารางเมตร และอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่าในสหรัฐอเมริกา 5 อาคาร

ไฮไลต์ คือ โรงแรมใหม่ 2 ทำเลที่จะเปิดตัวในไตรมาส 2/68 อาทิ KROMO, Curio Collection by Hilton ทำเลติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามห้าง EmSphere และ The Standard หนึ่งเดียวในพัทยา ติดหาดนาจอมเทียน และคลังสินค้าเพื่อเช่า 3 โครงการใหม่ในทำเลบางนา กม.20,แหลมฉบัง และ นิคมอมตะ ชลบุรี

ขณะที่ ธุรกิจใหม่ เบื้องต้นมีการรวมธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯเข้ามา พร้อมกับศึกษาธุรกิจใหม่ๆเข้ามาเพิ่ม เบื้องต้นอยู่ระหว่างพิจารณา 2-3 ธุรกิจที่อาจเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีหรืออื่นๆ แต่แน่นอนว่าต้องเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต แม้จะยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในปี 2569

"การเพิ่มความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอ มีกำไรจากธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น การลงทุนจะเป็นไปอย่างรอบคอบ ร่วมทุนกับพันธมิตรแข็งแกร่ง และสัดส่วนหนี้ต่อทุนจะลดลงอย่างมีนัยในปีนี้"

ต่อมา คือ "ปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม" แต่สิ่งที่ยังคงเน้นย้ำคือเรื่องคุณภาพและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร

ท้ายที่สุด คือ "ปรับโครงสร้างองค์กร" เพิ่มความคล่องตัว รองรับการเติบโตของธุรกิจที่หลากหลาย และเพิ่มโอกาสเติบโตของพนักงาน

"ลูกค้ายังสำคัญเหมือนเดิม ธุรกิจยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือเราดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม และธุรกิจหลากหลายขึ้น เพราะฉะนั้นในทศวรรษที่ 3 นี้จึงมีการเปลี่ยนแปลง และผมคิดว่าเราจะเปลี่ยนเฉยๆคงไม่พอ เราต้องเปลี่ยนแล้วตะโกนออกไปให้ดังเพื่อให้ทุกคนได้ยิน ในปีนี้จะมีการรีแบรนด์ดิ้งครั้งแรกในรอบ 18 ปี ปรับโลโก้ ภาพลักษณ์ใหม่ชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังนี้"

เป้าหมายและแผนธุรกิจปี 2568 ยังคงเดินหน้าธุรกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง เติบโตทั้งยอดขาย รายได้ และกำไร สภาพคล่องแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้ต่อทุนลดลงอย่างมีนัย โดยวางเป้าหมายยอดขาย 26,000 ล้านบาท เพื่มขึ้น 4% จากปีก่อน และ รายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน พร้อมการลงทุนต่อเนื่อง งบลงทุน 7,000 ล้านบาท

ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 17,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 40% คอนโดมิเนียม 60% คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 40% ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ในปีถัดไป

"ปีนี้แม้จะค่อนข้างท้าทาย แต่เราตั้งเป้าหมายกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่หลากหลาย ลงทุนอย่างรอบคอบ รักษาความเชื่อมั่นของแบรนด์ผ่านมาตรฐานสินค้าคุณภาพสูง รักษาตำแหน่งผู้นำบ้านเดี่ยว เพิ่มส่วนแบ่งตลาดคอนโด และสัดส่วนกำไรจากอสังหาฯ รายได้ประจำสม่ำเสมอ"

สิ่งที่อยากฝากให้ภาครัฐพิจารณากระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมี 3 เรื่อง คือ เรื่องแรก "การกระตุ้นกำลังซื้อ" ควรมีมาตรการที่ไม่จำกัดราคาอสังหาริมทรัพย์ เช่น การลดค่าโอนและภาษีในการโอนสำหรับอสังหาริมทรัพย์ทุกระดับราคา ไม่เฉพาะบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการซื้อขายในตลาดที่มีอุปทานโอเวอร์ซัพพลาย

เรื่องที่สอง คือ "สนับสนุนการกู้เงิน" ควรมีมาตรการที่ช่วยสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะ "การผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan to Value)" เพื่อให้ผู้ซื้อมีโอกาสเข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกหรือบ้านหลังที่สอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้ออสังหาฯ 

"ความเข้มงวดของมาตรการ LTV ถูกตั้งขึ้นเพื่อป้องกันการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน การเก็งกำไรได้ลดลงแล้ว ดังนั้นการผ่อนคลายมาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดได้มากขึ้น"

เรื่องที่สาม คือ "ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ" ควรมีมาตรการที่ช่วยดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจไทย และสร้างโอกาสในการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์

"การดำเนินตาม 3 มาตรการเหล่านี้ช่วยกระตุ้นอสังหาฯซึ่งมีผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ ดังนั้น การผ่อนคลายมาตรการ LTV จึงเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นตลาดอสังหาฯในปีนี้และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

Thailand Web Stat