GUNKUL ย้ำรายได้โต 10-15% โบรกฯ เคาะเป้า 3.51-5 บาท อัพไซด์เกิน 100%
GUNKUL จัดประชุมนักวิเคราะห์ ให้ข้อมูลแผนธุรกิจปี 68 ตอกย้ำความมั่นใจเป้ารายได้ 3 ปี กว่า 35,000 ล้านบาท โต 10-15% โบรกฯ มองเชิงบวก ให้เป้า 3.51-5 บาท อัพไซด์มากกว่า 100%
นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า บริษัทจัดงานประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Analyst Meeting) นำเสนอแผนงานธุรกิจประจำปี 2568 และแนะนำตัวในฐานะซีอีโอคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ “พาร์ตเนอร์ด้านพลังงานสีเขียว และโครงสร้างพื้นฐานแห่งภูมิภาคเอเชีย ที่ได้รับการยอมรับสูงสุด”
โดยมีคณะผู้บริหาร นำโดย นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร และนายฐิติพงศ์ เตชะรัตนยืนยง ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี ร่วมให้ข้อมูลและให้การต้อนรับ โดยมีนักวิเคราะห์จากบริษัท หลักทรัพย์ชั้นนำ เข้าร่วมงานจำนวนมาก ณ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ชั้น 44 อาคาร วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ (โอซีซี)
ทั้งนี้ มั่นใจรายได้เติบโตต่อเนื่อง รวม 3 ปี กว่า 35,000 ล้านบาท เติบโต 10-15% โดยแผนธุรกิจปี 2568 GUNKUL เดินกลยุทธ์ “สมการความก้าวหน้า” ที่สร้างการเติบโตอย่างเป็นระบบและมีความมั่นคง มุ่งเน้นการเติบโตรายได้ของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก และต่อยอดสู่ธุรกิจในอุตสาหกรรม New S-Curve
โดยปัจจุบัน GUNKUL มีโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวทั้งหมด 1,479 เมกะวัตต์ ซึ่ง 85% เป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นแบบค่าไฟคงที่ (FIT) จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนของค่าไฟแปรผันหรือ Ft โดยมี 832 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรอรับรู้รายได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีมูลค่างานรอรับรู้รายได้ (Backlog) ร่วม 4,000 ล้านบาท อีกด้วย
ด้านนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหาร GUNKUL มีมุมมองเชิงบวกต่อเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% และปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าสีเขียวทั้งหมด 1,479 เมกะวัตต์ และ 832 เมกะวัตต์ ที่พึ่งได้รับคัดเลือกจากการประมูลล่าสุดกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่อยู่ระหว่างการรอพัฒนาโครงการ
ประเมินจากศักยภาพของ GUNKUL น่าจะสามารถหาพาร์ตเนอร์เข้าร่วมลงทุนในโครงการเหล่านี้ และเติบโตไปกับพาร์ตเนอร์ที่มีศักยภาพการเติบโตในธุรกิจไฟฟ้าระดับภูมิภาค
ส่วนประเด็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์หมดสัญญา Adder (เงินส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า) ไปหมดแล้ว เหลือเพียงโรงไฟฟ้า พลังงานลม ที่ถือหุ้นรวมกับพาร์ตเนอร์คนละครึ่งในปี 2027 แต่ในช่วงปี 2027 จะมีโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามาเพิ่มมากกว่าในส่วนที่ adder หายไป
นอกจากนี้ บริษัทยังมีอีก 2 ธุรกิจ ที่พร้อมเติบโตตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะงานด้าน EPC หรืองานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้า และวางสายไฟฟ้า และโทรคมนาคม จากภาครัฐอีกมาก อีกทั้งมีโอกาสเข้าร่วมลงทุนและสร้างโรงไฟฟ้าสีเขียว เพื่อขายไฟฟ้าให้กับ Data Center ที่คาดว่าจะมีการลงทุนและก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก ภายใต้สัญญา private PPA (สัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ผลิตได้จากระบบโซลาร์เซลล์) ให้ราคาเป้าหมาย 3.51-5 บาท