ผู้ถือหุ้น GULF-INTUCH เคาะชื่อบริษัทใหม่ ลุยธุรกิจแห่งอนาคต

ผู้ถือหุ้น GULF-INTUCH เคาะชื่อบริษัทใหม่ ลุยธุรกิจแห่งอนาคต

25 มีนาคม 2568

ปิดตำนาน GULF-INTUCH ผู้ถือหุ้นร่วม 2 บริษัท อนุมัติชื่อบริษัทใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์” ชื่อย่อหลักทรัพย์เดิม “GULF” เทรด 3 เม.ย.นี้ ก้าวสู่ธุรกิจแห่งอนาคต เน้นดิจิทัล

KEY

POINTS

  • ปิดตำนาน GULF-INTUCH กลายร่างเป็น “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์” หลังผู้ถือหุ้นร่วม 2 บริษัท อนุมัติชื่อบริษัทใหม่ ชื่อย

ย้อนตำนาน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ก่อนควบรวมกิจการแล้วเสร็จ และจัดตั้งเป็นบริษัทมหาชนจำกัดขึ้นใหม่ (NewCo) 
 
ทั้งนี้ การควบรวม GULF และ INTUCH เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา GULF ได้เข้าไปลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ INTUCH และ THCOM ได้ศึกษาแนวทางเลือกหลายแนวทางในการจัดโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่ม GULF และ ในกลุ่ม INTUCH รวมไปถึง ADVANC และ THCOM ให้เหมาะสม 

ภายหลังจากได้มีการหารือ เห็นว่าแนวทางการควบรวมบริษัทระหว่าง GULF ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน และ INTUCH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน ADVANC ผู้นำด้านโทรคมนาคมของประเทศไทย น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 บริษัทและผู้ถือหุ้นทุกฝ่าย 

รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเป็นผู้นำในการขยายงานด้านธุรกิจพลังงานและธุรกิจโทรคมนาคม ทางด้านธุรกิจพลังงานบริษัทได้มุ่งมั่นที่จะขยายไปสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ส่วนในด้านธุรกิจโทรคมนาคมก็จะเน้นต่อยอดธุรกิจไปในธุรกิจดิจิทัลมากขึ้น

สำหรับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) ซึ่งแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องของกลุ่มบริษัทธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจก๊าซ 2) ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และ 3) ธุรกิจดิจิทัล 

GULF ก่อตั้งบริษัทเมื่อเดือน ส.ค.2554 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2560 ด้วยราคา IPO ที่ 45 บาท มีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5 บาท และได้มีการแตกพาร์ เป็น 1 บาท เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2563 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 11,733,149,998 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวนทั้งสิ้น 11,733,149,998 หุ้น ราคาปิดซื้อขายวันสุดท้าย (20 มี.ค.2568) อยู่ที่ 49.75 บาท   

ส่วน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี และดิจิทัล โดยการถือหุ้นและเข้าไปบริหารงาน (Holding Company) 

INTUCH ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2526 เดิมใช้ชื่อว่า “ชินวัตร คอมพิวเตอร์ เซอร์วิส แอนด์ อินเวสต์เมนต์” จากนั้นในปี 2544 เปลี่ยนชื่อเป็น “ชิน คอร์ปอเรชั่น” และในปี 2557 เปลี่ยนเป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบัน “อินทัช โฮลดิ้งส์”    

INTUCH เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2533 ด้วยราคา IPO ที่ 250 บาท มีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท และได้มีการแตกพาร์ เป็น 1 บาท เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2544 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 3,206,687,685 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวนทั้งสิ้น 3,206,687,685 หุ้น ราคาปิดซื้อขายวันสุดท้าย (20 มี.ค.2568) อยู่ที่ 81.50 บาท 

จากนั้นในวันที่ 21 มี.ค.-2 เม.ย.2568 GULF และ INTUCH ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP หรือหยุดการซื้อหรือขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว รวมเป็นระยะเวลา 9 วันทำการ เพื่อเตรียมการจัดสรรหุ้นสามัญของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ GULF และ INTUCH

ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมใน GULF ต่อ 1.02974 หุ้น ใน NewCo และ 1 หุ้นเดิมใน INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้น ใน NewCo (ไม่รวมหุ้น 47.37% ใน INTUCH ที่ถือโดย GULF โดยจัดสรรหุ้น NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ INTUCH ทุกรายยกเว้น GULF) และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการนำหุ้นสามัญของบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  

โดยในระหว่างขึ้นเครื่องหมาย SP ในวันที่ 21 มี.ค.-2 เม.ย.2568 GULF เปลี่ยนแปลงชื่อย่อหลักทรัพย์ของบริษัท จาก “GULF” เป็น “GULFI” เพื่อให้ NewCo สามารถใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “GULF” ได้  

ผู้ถือหุ้น GULF-INTUCH เคาะชื่อบริษัทใหม่ ลุยธุรกิจแห่งอนาคต

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (25 มี.ค.2568) ได้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของ GULF และผู้ถือหุ้นของ INTUCH เพื่อพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการควบบริษัท โดยวาระสำคัญที่น่าสนใจ คือ การพิจารณาอนุมัติชื่อของ NewCo, การพิจารณาอนุมัติวัตถุประสงค์ของ NewCo และการพิจารณาอนุมัติทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น และทุนชำระแล้วของ NewCo

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ภายหลัง GULF ควบรวมกับ INTUCH จึงขอแจ้งกับผู้ถือหุ้นในรอบสุดท้ายว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยจะมีผลวันที่ 1 เม.ย.2568 และจะกลับมาเปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 3 เม.ย.2568

โดยธุรกิจใหม่หลังควบรวมจะสร้างรายได้ให้กลุ่ม GULF มากขึ้น จะเติมเต็มโครงสร้างพื้นฐานอินฟราสตรัคเจอร์ โทรคมนาคม ดาต้าเซ็นเตอร์ มุ่งสู่ธุรกิจแห่งอนาคต ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์ ปัจจุบันมีกำลังผลิต 24 เมกะวัตต์ ที่มีเป้าหมายจะสร้างเสร็จในไตรมาส 2/2568 ขณะนี้มีลูกค้าจองเต็มหมดแล้ว และจะขยายในเฟสต่อไป กำลังการผลิตมากกว่าเดิม ดังนั้น รายได้ที่เข้ามาจะต่อยอดธุรกิจอื่น ทั้ง ดิจิทัล คลาวด์ และดาต้าเซ็นเตอร์ 

การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ GULF แข็งแรงมากขึ้น สถานะทางการเงินที่ดี ต้นทุนทางการเงินต่ำลงมาก ทำให้ความสามารถทางรายได้ดีขึ้น ความสามารถทางการแข่งขันและกำไรสูงขึ้น จะได้ส่วนแบ่งกำไรไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาทต่อปี และจะได้เงินปันผลเพิ่มขึ้นกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี หนี้สินต่อทุนลดลง 0.8 เท่า จากเดิมไม่เกิน 1.8 เท่า 

ทั้งนี้ เนื่องมาจาก INTUCH ไม่มีหนี้ มีสถาพคล่องสูง ต่อยอดธุรกิจพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล แม้แต่การเงินกระจายความเสี่ยงรายได้เดิมจากกำไรกลุ่มธุรกิจพลังงาน 60% อีก 40% จะมาจากอีก 3 ธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการควบรวมธุรกิจแล้ว ตั้งเป้างบลงทุน 5 ปี ไว้ที่ 100,000 ล้านบาท โดยปีนี้ลงทุน 20,000 ล้านบาท
 
“กำไรและเงินปันผลหลังควบรวมนั้น อาจจะยังตอบตอนนี้ไม่ได้ เพราะจะมาจากผลประกอบการบริษัทใหม่ นโยบายแผนการลงทุนในอนาคต การบริหารจัดการกระแสเงินสด เพื่อจะสร้างความสมดุล ทั้งผลตอบแทนผู้ถือหุ้น การเงินการลงทุนและขยายการลงทุนในอนาคต แต่อยากให้ความมั่นใจว่า GULF มีการจ่ายปันผลมาตลอด จะเห็นว่าตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา มีการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง” 

ล่าสุด ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วม GULF และ INTUCH มีมติอนุมัติชื่อของ NewCo คือ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชื่อย่อหลักทรัพย์ “GULF”  

นอกจากนี้ อนุมัติทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น และทุนชำระแล้วของ NewCo ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

  • ทุนจดทะเบียน จำนวน 14,939,837,683 บาท
  • ทุนชำระแล้ว จำนวน 14,939,837,683 บาท
  • แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 14,939,837,683 หุ้น
  • มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท

ดังนั้น หลังจาก GULF ควบรวบกิจการกับ INTUCH และจดทะเบียนการควบบริษัทแล้วเสร็จ GULF และ INTUCH จะสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคล และจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ขณะเดียวกัน จะกลายเป็น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “GULF” มีทุนจดทะเบียน 14,939,837,683 บาท ซึ่งเทียบเท่ากับทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วทั้งหมดของ GULF และ INTUCH รวมกัน แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวนทั้งสิ้น 14,939,837,683 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 3 เม.ย.2568 เป็นต้นไป

โบรกฯ เคาะเป้าบริษัทใหม่ 53.25 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศ) จำกัด ระบุว่า เนื่องจาก NewCo ดำเนินธุรกิจหลากหลายทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าและ ICT รวมถึงธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านบริษัทในเครือหลายกิจการ ซึ่งแต่ละธุรกิจมีความหลากหลายในด้านความเหมาะสมของวิธีการประเมินมูลค่า เราจึงมองว่าการประเมินมูลค่า NewCo ด้วยวิธี Sum Of The Parts (SOTP) เป็นวิธีการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมที่สุด

โดยประเมินมูลค่าหุ้นด้วยการรวมธุรกิจแต่ละส่วนดังนี้ ประเมินมูลค่าธุรกิจโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานที่ NewCo ดำเนินงานเองหรือมีการเข้าไปลงทุนด้วยวิธี Discounted Cash Flow (DCF) ซึ่งใช้สมมติฐาน WACC ที่ระดับ 6.4% (Beta 1.2, Ke 11.3%, Rf 2.0%, Market Return 10.0%) 

ถัดมาประเมินมูลค่าเงินลงทุนในบริษัท ADVANC และ THCOM อ้างอิงราคาเหมาะสมที่ 296 บาท/หุ้น และ 16.50 บาท/หุ้น ตามลำดับ จากนั้นให้ส่วนลดจากการเป็น Holding Company 10% และประเมินมูลค่าธุรกิจ Data Center โดยอ้างอิงตัวคูณ PE Multiple ที่ 35 เท่า โดยใช้ EPS ปี 2568 ของธุรกิจดังกล่าวที่ 0.013 บาท/หุ้น

รวมถึงให้พรีเมียมในการประเมินมูลค่า 4% ภายใต้สมมติฐานการได้รับ SET ESG Rating ที่ระดับ AAA (แม้ NewCo จะยังไม่มี SET ESG Rating อย่างเป็นทางการแต่การที่ GULF และ INTUCH เดิมมี SET ESG Rating อยู่ในระดับ AAA และ AA ตามลำดับ ทำให้มีโอกาสสูงที่ NewCo จะได้รับ SET ESG Rating ในระดับ AAA) 

ดังนั้น ส่งผลให้ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ NewCo ณ สิ้นปี 2568 ได้ที่ 53.25 บาท 

Thailand Web Stat