
ซัมเมอร์ร้อน! เมษาเดือด หุ้นไทยพักบวก ร่วงแรงไม่หยุด!
ดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้างถึงแม้ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวลงหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ดัชนีมีการปรับตัวลงไปปิดบริเวณ 1,158 จุด โดยจุดต่ำสุดของรอบนี้อยู่ที่ 1,155 จุด
หากดูตามสถิติช่วงที่ผ่านมาในเดือนเมษายนตลาดหุ้นมักจะมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลงมาเฉลี่ยที่ 3.5-4.5 หมื่นล้านบาทต่อวัน โดยหากลองดูผลตอบแทนในช่วงเดือนเมษายนย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา ดัชนี SET ในเดือนเมษายนมีช่วงที่ปรับตัวลงทุกปี ยกเว้นปี 2563 ที่มีการระบาดอย่างหนักของเชื้อ Covid-19
• เม.ย. ปี 2567 ดัชนี SET -9.99 จุด หรือ -0.72% ปิดที่ 1,367 จุด เทรดบน PER ที่ 17.95 เท่า
• เม.ย. ปี 2566 ดัชนี SET -80.05 จุด หรือ -4.97% ปิดที่ 1,529 จุด เทรดบน PER ที่ 18.11 เท่า
• เม.ย. ปี 2565 ดัชนี SET -27.80 จุด หรือ -1.64% ปิดที่ 1,661 จุด เทรดบน PER ที่ 20.19 เท่า
• เม.ย. ปี 2564 ดัชนี SET -4.08 จุด หรือ -0.26% ปิดที่ 1,541 จุด เทรดบน PER ที่ 40.97 เท่า
• เม.ย. ปี 2563 ดัชนี SET +175.80 จุด หรือ 15.61% ปิดที่ 1,105 จุด เทรดบน PER ที่ 15.13 เท่า (ตลาดฟื้นตัวหลังการกระตุ้นเศรษฐกิจและการผ่อนคลายนโยบายเงินในช่วงการระบาดของ Covid-19)
หากลองดูค่าเฉลี่ยผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี หุ้นไทยทำผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือนเมษายนเป็นลบ 4 ใน 5 ครั้งหลังสุดและมีการซื้อขายบนค่าเฉลี่ย PE ที่ 22.47 เท่า โดยมี Dividend Yield 3.07% ต่อปี (ข้อมูลจาก SET Smart) ซึ่งหากมองดู Trailing PE ที่มีการซื้อขาย As of 31 มีนาคม 2568 อยู่ที่ 15.78 เท่า ซึ่งต่ำกว่า -1 S.D. จากค่าเฉลี่ย 5 ปี แต่แนวโน้มหุ้นไทยที่ยังถูกกดดันจากการเติบโตที่ช้าลง และ ความเสี่ยงด้านมหภาคจากสงครามการค้าและความกังวลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ในสภาวะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกมากนักและในช่วงเดือนเมษายนที่มีวันหยุดเยอะ ทำให้นักลงทุนอาจจะถือโอกาสไปพักผ่อนในช่วงเทศกาลหยุดยาวหรือปิดจอพักการลงทุนในตลากหุ้นชั่วคราวซึ่งบางครั้งก็อาจจะทำให้เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทน แต่วันนี้หลักทรัพย์บัวหลวงเรามีทางเลือกการลงทุนที่สามารถสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงเดือนเมษาหน้าร้อนวันหยุดเยอะแต่ FCN สร้างดอกเบี้ยทุกวันไม่มีหยุด
โดยการลงทุนบน FCN (Fixed Coupon Note) เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ตลอดการถือครองและสามารถออกแบบกรอบล่างที่ราคา Knock-In (KI) โดยการกำหนดอัตราดอกเบี้ยและกรอบราคาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของหุ้นอ้างอิงที่เลือก โดยสามารถเลือกระยะเวลาการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นตามอายุสัญญาตั้งแต่ 3 – 9 เดือน ซึ่งจะมีการจ่ายผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 7-12% ต่อปี
โดยที่นักลงทุนจะทราบจำนวนผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่จะได้รับตั้งแต่วันแรกที่เปิดสัญญา ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยง หรือความสนใจของหุ้นอ้างอิง รวมทั้งประเมินทิศทางราคาเพื่อกำหนดกลยุทธ์ได้ด้วยตัวเอง สำหรับการลงทุนใน FCN นั้น จะจ่ายกระแสเงินสดเป็นดอกเบี้ยให้กับนักลงทุนในทุกๆ เดือน หรือ ทุกๆ 2 สัปดาห์ (ตามที่นักลงทุนกำหนด) ซี่งดอกเบี้ยที่จ่ายนั้นจะคำนวณจากจำนวนวันตามปฏิทินจริงในแต่ละเดือน
เดือนเมษายน 2568 มีวันหยุดเทศกาลและวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รวม 11 วัน
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น จากตัวอย่าง การลงทุนใน FCN จำนวนเงิน 1 ล้านบาท (มูลค่าสัญญา) ที่อัตราดอกเบี้ย 12% ต่อปี อายุสัญญา 6 เดือน จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน
ลองสังเกตในงวดแรก จะเป็นดอกเบี้ยงวดที่คร่อมช่วงเดือน เม.ย. 68 พอดี คือตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 67 (วันที่ออกตั๋ว) จนถึงวันรับดอกเบี้ย ซึ่งคือวันที่ 30 เม.ย. 68 คิดเป็น 30 วันปฏิทิน โดยนักลงทุนยังได้รับดอกเบี้ยโดยคำนวณตามจำนวนวันในปฏิทินจริง คิดเป็นจำนวน 9,862.93 บาท โดยไม่สนว่ามีวันหยุดมากน้อยแค่ไหนในช่วงนั้นๆ โดยจากตัวอย่างระหว่างวันที่ 31 มี.ค. 68 ถึง 30 เม.ย. 68 ก็มีวันหยุดยาวสงกรานต์ ทำให้มีวันที่ตลาดหุ้นเปิดทำการให้ซื้อขายเพียง 19 วันเท่านั้น
จะเห็นว่าดอกเบี้ยจาก FCN จะเดินทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันหยุดหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นการสร้างดอกเบี้ยจาก FCN ผ่านช่วงหยุดยาวจึงเป็นกลยุทธ์เด็ดที่หลายคนเลือก เพราะสามารถรับดอกเบี้ยต่อวันเท่าเดิม ในขณะที่ถ้าตลาดหุ้นปิดหลายวันในช่วงนั้นๆก็ถือว่าลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นได้ในระดับหนึ่ง พูดง่าย ๆ คือนั่งชิล ๆ หรือจะพักผ่อนอยู่ริมทะเลในวันหยุดก็รับดอกเบี้ยจาก FCN โดยที่ไม่ต้องมานั่งเทรดหุ้นในช่วงวอลุ่มการซื้อขายต่ำและสถานการณ์ตลาดยังไม่ค่อยสู้ดีนัก
แม้ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวเดือนเม.ย.ของทุกๆปีอาจเป็นช่วงเดือนแห่งการออกเดินทางหรือพักผ่อนโดยอาจจะห่างหายจากการลงทุนบนตลาดหุ้นไทย แต่ปีนี้อาจไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อยังมีเครื่องมือทางการเงินอย่าง FCN ช่วยสร้างกระแสเงินสดได้โดยที่ไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าจอและยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้แม้อยู่ในช่วงวันหยุด อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ FCN เป็นตราสารที่ไม่มีการคุ้มครองเงินต้น ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน