แกร่งสุดในปฐพี
แม้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะถูกยกย่องว่าเป็นรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า
โดย...โป๊ะแตก
แม้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะถูกยกย่องว่าเป็นรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือชัชชาติยังมียิ่งลักษณ์ เพราะยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือนายกรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
แกร่งชนิดที่ มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ แห่งอังกฤษชิดซ้าย กลอเรีย อาร์โรโย แห่งฟิลิปปินส์ต้องกลายเป็นเด็กอ่อนหัดเมื่อเทียบกับเธอ
“อ่อนหัด มีความตั้งใจ แต่ก็อ่อนหัด”
จะไม่แกร่งที่สุดในปฐพีได้อย่างไร เพราะไม่ว่าลุงกำนันและมวลมหาประชาชน กปปส.จะทำอย่างไร เธอก็เกาะเก้าอี้แน่นไม่ยอมลาออกซักที
เป่านกหวีดก็แล้ว เดินขบวนก็แล้ว ปิดกระทรวงก็แล้ว ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ก็แล้ว บลา บลา บลา เธอก็ยังเกาะเก้าอี้ไว้เหนียวหนึบ
“ดิฉันก็ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว ก็ขอความเป็นธรรมด้วย”
“ทหารต้องทำหน้าที่ของตนเองจนนาทีสุดท้าย ทหารต้องรักษาพื้นที่ ต้องตายในสนามรบ วันนี้ดิฉันก็ต้องตายในสนามประชาธิปไตย”
แข็งแกร่งยิ่งนัก แข็งแกร่งยิ่งนัก
หลายครั้งที่เธอให้สัมภาษณ์สื่อด้วยน้ำตาคลอเบ้านั้น หาใช่น้ำตาแห่งความอ่อนแอไม่
แต่มันคือม่านบาเรียที่แผ่ออกมาเป็นเกราะป้องกันตัว แถมยังสะท้อนพลังกลับไปยังคนที่โจมตีอีกต่างหาก
ล่าสุดกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ คุณยิ่งลักษณ์ก็แสดงพลังอันเหนือกฎเกณฑ์อีกแล้ว
“ก็อยากให้มองที่เจตนา อย่ามองการใช้ข้อกฎหมายเป็นข้อที่จะลิดรอนหรือเป็นข้อที่จะตัดสิทธิทุกคนเลย แล้วอย่างนี้เราจะไปกันลำบาก การพัฒนาประเทศก็ลำบาก เพราะถ้าเรามุ่งแต่บอกว่าทำทุกอย่างใช้ข้อกฎหมายในการตัดสิทธิโดยที่ไม่ฟังเจตนารมณ์เบื้องต้น อันนี้ต่างหากที่เราหวังว่าเราจะได้รับความเข้าใจและได้รับความยุติธรรมและความเห็นใจ”
โอ้ว...แข็งแกร่งยิ่งนัก เธอกำลังบอกว่าหากมีเจตนาดีแล้ว กฎหมายก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องคำนึงถึง?
แบบนี้วันหลังถ้ามีคนขับรถผิดกฎจราจร ก็สามารถใช้เหตุผลเดียวกับเธอได้เช่นกัน ชิมิ
“ที่ไม่ใส่หมวกกันน็อกหรือคาดเข็มขัดนิรภัย อยากให้มองที่เจตนา อย่ามองหรือใช้ข้อกฎหมายลิดรอนสิทธิผู้ขับขี่เลย หากเป็นแบบนี้จะขับขี่กันลำบาก เพราะถ้ามุ่งแต่บอกว่าจับทุกอย่าง ใช้ข้อกฎหมายในการจับโดยที่ไม่ฟังเจตนาเบื้องต้นของผู้ขับขี่ อันนี้ต่างหากที่หวังว่าจะได้รับความเข้าใจ และได้รับความยุติธรรมและความเห็นใจ” (ฮา)
...ครั้งหนึ่ง อาร์ริโก้ ซาคคี่ อดีตกุนซือทีมชาติอิตาลี ยกย่อง ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ อดีตดาวเตะทีมชาติบัลแกเรียและบาร์เซโลนา ว่ามีแค่ปืนพกที่จะหยุดเขาได้ ส่วน สตอยช์คอฟ ก็ยกย่อง ลิโอเนล เมสซี ดาวเตะบาร์เซโลนาคนปัจจุบันว่าต้องใช้ปืนกลถึงจะหยุดเมสซีได้
ขณะที่เมสซีไม่ได้กล่าวไว้ว่า ถ้าจะหยุดยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีได้ ต้องใช้รถถังเท่านั้น!!!