ซื้อขาย Single Stock Futures สบายใจ ไร้ปัญหาสภาพคล่อง

โดย  บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)

สภาพคล่อง (Liquidity) เป็นเงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้ลงทุนควรให้ความสำคัญเวลาที่จะลงทุนในอนุพันธ์ เพราะสภาพคล่องในการซื้อขายจะบอกถึงความยากง่ายของการจับคู่สัญญาเวลาซื้อขายอนุพันธ์ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายอนุพันธ์ที่มีสภาพคล่องต่ำ คือ คำสั่งซื้อขายมีโอกาสจับคู่ได้น้อย และถ้าต้องการจับคู่สัญญาให้ได้ก็อาจจะต้องส่งคำสั่งซื้อขายในราคาที่ถูกหรือแพงเกินจริงไม่เป็นไปตามกลไกตลาด

ในการพิจารณาสภาพคล่องในการซื้อขายจะดูจากส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อสูงสุด (Best Bid Price) กับราคาเสนอขายต่ำสุด (Best Ask Price) หรือที่เรียกว่า Bid-Ask Spread ร่วมกับปริมาณเสนอซื้อ (Bid Volume) และปริมาณเสนอขาย (Offer Volume) อนุพันธ์ที่มี Bid-Ask Spread ห่างกันน้อย พร้อมกับปริมาณเสนอซื้อและปริมาณเสนอขายมากจะแปลความหมายได้ว่าอนุพันธ์ตัวนั้นมีสภาพคล่องสูง แต่ถ้าอนุพันธ์ที่มี Bid-Ask Spread ห่างกันมาก พร้อมกับปริมาณเสนอซื้อและปริมาณเสนอขายน้อยก็จะแปลความหมายได้ว่าอนุพันธ์ตัวนั้นมีสภาพคล่องต่ำ

สำหรับการซื้อขายอนุพันธ์ Bid-Ask Spread ถือว่าเป็นต้นทุนชนิดหนึ่งของผู้ลงทุนถ้า Bid-Ask Spread กว้าง ต้นทุนในการซื้อขายก็จะสูงขึ้น ถ้า Bid-Ask Spread ต่ำ ต้นทุนในการซื้อขายก็จะต่ำลง ในกรณีที่ผู้ลงทุนต้องการให้คำสั่งซื้อของตัวเองถูกจับคู่ทันทีจะต้องส่งคำสั่งซื้อด้วยราคาที่เสนอขายต่ำสุดในขณะนั้น และถ้าผู้ลงทุนต้องการให้คำสั่งขายของตัวเองถูกจับคู่ทันทีก็จะต้องส่งคำสั่งขายด้วยด้วยราคาที่เสนอขายสูงสุด จึงทำให้ส่วนต่างของทั้งสองราคาเป็นต้นทุนที่ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงด้วยเวลาที่ซื้อขายอนุพันธ์

สำหรับ Single Stock Futures (SSF) ใน TFEX มีสินค้าอ้างอิงที่เป็นหุ้นรายตัวที่อยู่ในกลุ่มดัชนี SET100 ให้ซื้อขายจำนวน 69 ตัว โดยหุ้นอ้างอิงที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุน ได้แก่ AAV BLAND ITD KTB QH SIRI และ TMB ผู้ลงทุนที่สนใจซื้อขาย SSF 7 ตัวนี้สามารถเข้ามาซื้อขายบนกระดานได้โดยไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องสภาพคล่อง สำหรับหุ้นอ้างอิงตัวอื่น ๆ นั้นยังมีสภาพคล่องไม่สูงมากนัก ซึ่งผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขาย SSF อ้างอิงหุ้นที่มีสภาพคล่องไม่มากอาจต้องเลือกวิธีการซื้อขายแบบรายใหญ่ด้วยวิธี Block Trade ผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการด้านนี้ อย่างไรก็ตามการซื้อขายแบบ Block Trade นั้นก็มีข้อเงื่อนไขของจำนวนสัญญาขั้นต่ำ จึงไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขาย SSF จำนวนไม่มาก

ปัจจุบัน TFEX มีแนวทางเสริมสภาพคล่องเพื่อให้กับ SSF ตัวอื่น ๆ โดยตั้งแต่ผู้ดูแลสภาพคล่องใน SSF จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (TRINITY) และ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (RHBS) เพื่อส่งเสริมให้มีราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายของ SSF ในกระดานซื้อขายอัตโนมัติ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเข้ามาซื้อขาย SSF ได้ตามต้องการ โดยผู้ดูแลสภาพคล่องทั้ง 3 ราย จะเริ่มปฎิบัติหน้าที่ใน SSF จำนวนบริษัทละ 5 หุ้นอ้างอิง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2559

หลังจากผู้ดูแลสภาพคล่องได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่พบว่าการซื้อขาย SSF หลายตัวเริ่มมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งผู้ลงทุนสามารถสังเกตได้จาก Bid-Ask Spread ที่แคบขึ้น โดยตัวอย่างของหุ้นอ้างอิงที่มีสภาพคล่องดีขึ้น ได้แก่

•หุ้นอ้างอิงหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร : CPF, MINT, TUF
•หุ้นอ้างอิงหมวดเทคโนโลยี : ADVANC, DTAC, INTUCH, TRUE
•หุ้นอ้างอิงหมวดทรัพยากร : BANPU, BCP, CKP, IRPC, PTT, PTTEP, RATCH
•หุ้นอ้างอิงหมวดธุรกิจการเงิน : BAY, BBL, KBANK, KK, SAWAD
•หุ้นอ้างอิงหมวดบริการ : AOT, BEM, BGH, BJC, CENTEL, CPALL, HMPRO, THAI, TTA
•หุ้นอ้างอิงหมวดวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม : IVL, PTTGC
•หุ้นอ้างอิงหมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง : AMATA, CK, CPN, LH, LPN, SCC, TPIPL, TTCL

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถหาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายอนุพันธ์ได้จากโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการ หรือ เว็บไซต์ www.tfex.co.th

TFEX ขอเชิญนักลงทุนเข้าร่วมสัมมนา “เจาะลึก หุ้น Stock Futures เด็ด ครึ่งปีหลัง” ในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2559 เวลา 13:00 – 16:30 น. ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื้อหาสัมมนาให้ความรู้เรื่องการทำกำไรด้วย Stock Futures และรายชื่อ Stock Futures ที่นักวิเคราะห์แนะนำในช่วงครึ่งปีหลัง สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนได้ที่ www.TFEX.co.th