posttoday

การเดินทางของความมั่งคั่ง

09 สิงหาคม 2559

โดย ดร.ศุภกร สุนทรกิจ กรรมการบริหาร สายงาน Wealth Management บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด

โดย ดร.ศุภกร สุนทรกิจ กรรมการบริหาร สายงาน Wealth Management บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกๆท่าน วันนี้ผมอยากพูดถึงเรื่องการบริหารความมั่งคั่งภายใต้ช่วงชีวิตของเราหรือจะเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า life stage wealth management ครับก่อนอื่นคงต้องให้ความหมายของคำว่าช่วงชีวิต หรือ life stageซึ่งก็คือช่วงชีวิตของเราๆท่านๆโดยแบ่งตามสถานะของการได้มาและใช้ไปของเงินรวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการสถานะของการมีภาระของทั้งตัวเราเองและคนที่เราต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็นลูก หลาน พ่อแม่ที่เข้าวัยชรา เป็นต้น ซึ่งโดยปกติเราสามารถแบ่งช่วงชีวิตของเราออกเป็น 6 ช่วงคือ

1.ช่วงวัยเด็ก อายุ 0-22 ปี
2.ช่วงวัยเริ่มต้น (ทำงานหรือ  start out) อายุ23-30ปี
3.ช่วงต้นของกลางชีวิต (young midlife) อายุ30-40ปี
4.ช่วงกลางชีวิต (midlife)อายุ40-55 ปี
5.ช่วงเตรียมตัวเกษียณอายุ55-65ปี
6.ช่วงวัยเกษียณ อายุ 65 ปี ขึ้นไป

ครับซึ่งจะเห็นว่าถ้าเรามองแต่ละช่วงในรูปของการได้มาของรายได้ภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละช่วงอายุจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในที่นี้ผมจะข้ามช่วงวัยเด็กไปนะครับเพราะถือว่าเป็นช่วงที่ไม่สามารถหารายได้เองได้ต้องพึ่งพิงจากคนอื่น(ยกเว้นบางคนที่มีมรดกหรือกองทุนหรือเป็นดาราตั้งแต่เด็ก)

ช่วงวัยเริ่มต้นทำงานเป็นช่วงที่เราเริ่มมีรายได้แต่มักจะไม่มากนักในขณะที่รายจ่ายจะอยู่ในรูปของค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน การสังสรรค์กับเพื่อนฝูง บางคนอาจมีภาระในการศึกษาต่อ ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว เป็นต้น ช่วงนี้ถ้าใครไม่มีวินัยอาจเกิดภาวะเป็นหนี้สินบัตรเครดิต ได้ง่ายๆ หรือไม่ค่อยมีเงินเหลือเพื่อลงทุน

ช่วงต้นของวัยกลางชีวิตเป็นช่วงที่เรามีรายรับจากเงินเดือนหรือรายได้เสริมอื่นๆมากขึ้นก็จริงแต่ค่าใช้จ่ายและภาระก็จะมากขึ้นเช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นมักจะมาจากการที่เราเริ่มสร้างครอบครัวแปลว่าต้องเก็บเงินแต่งงาน เริ่มมีบ้านเป็นของตนเอง ทำให้เกิดภาระในการมีหนี้สินระยะยาว นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ ดังนั้นช่วงนี้ถ้าไม่มีการวางแผนหรือขาดวินัยอาจทำให้เกิดภาวะมีความมั่งคั่งติดลบได้จึงเป็นช่วงที่เราควรหารายได้เพิ่มเติมหรือวางแผนการมีภาระหนี้สินให้ดีเช่นผ่อนรถให้หมดก่อนค่อยผ่อนบ้านเพื่อไม่ให้เกิดภาระซ้อน การลงทุนจะเริ่มมีความสำคัญมากชึ้น

ช่วงวัยกลางชีวิต เป็นช่วงที่หลายคนเริ่มเข้าสู่จุดสูงสุดของการเติบโตในหน้าที่การงานทำให้มีรายได้มากขึ้น แต่แน่นอนรายจ่ายก็สูงตามไปด้วยโดยส่วนใหญ่ภาระที่เพิ่มขึ่นมาคือค่าใช้จ่ายในการให้การศึกษาแก่ลูกๆ การเดินทางท่องเที่ยวและใช้ชีวิตที่ต้องมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้น การลงทุนและการวางแผนทางการเงินที่เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นจนควรเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีเงินเพียงพอสำหรับวัยเกษียณ

ช่วงก่อนเกษียณ เป็นช่วงสูงสุดของชีวิตวัยทำงานทั้งตำแหน่งหน้าที่และรายได้ แต่ภาระค่าใช้จ่ายก็มักจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน เช่นการขยับขยายหรือต่อเติมบ้านที่อยู่อาศัย ภาระที่ต้องมีต่อพ่อแม่ที่เข้าสู่วัยชราภาพ การลงทุนเพื่อการเกษียณในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดเช่นกันนอกจากนั้นการปลดภาระหนี้สินต่างๆก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำเพื่อไม่ให้เกิดเป็นภาระในอนาคต

ช่วงวัยเกษียณเป็นช่วงที่เรามักจะไม่มีรายได้จากการทำงานดังนั้นการพึ่งพิงรายได้จากเงินลงทุนที่ได้สะสมมาในช่วงชีวิตก่อนหน้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อให้รองรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันรวมถึงรายจ่ายจากงานอดิเรก การสันทนาการ การเดินทางท่องเที่ยว และที่เพิ่มขึ้นมาอีกก็คือค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพ ค่าใช้จ่ายบางส่วนอาจต้องเผื่อไว้สำหรับหลานๆที่เริ่มเติบโตขึ้น และสุดท้ายคือการวางแผนมรดก

ครับสุดท้ายผมก็ขอให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านมีความสุขและประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ