เบียร์ช้าง-ตะวันแดง
ตลาดเหล้าสี เหล้าขาว คึกคักทันตาเห็นเมื่อมีผู้เล่นรายใหม่อย่าง บริษัท ตะวันแดง 1999 กระโดดเข้าสู่ตลาด
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ตลาดเหล้าสี เหล้าขาว คึกคักทันตาเห็นเมื่อมีผู้เล่นรายใหม่อย่าง บริษัท ตะวันแดง 1999 กระโดดเข้าสู่ตลาด
เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ตะวันแดง 1999 เปิดเผยว่า ตะวันแดงแยกกิจการออกจากเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง แต่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นกลุ่มเดียวกัน อาทิ เสถียร และยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว ด้วย
ตะวันแดงจะทำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเหล้าครบวงจรตั้งแต่เหล้าขาว เหล้าสี วิสกี้ บรั่นดี และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ
ตลาดแรกที่ตะวันแดงจะลงไปก็คือเหล้าขาวมีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทต่อปี แต่มีผู้ผลิตรายใหญ่รายเดียวที่ครองตลาดมากกว่า 90%
เหล้าขาวตะวันแดงจะเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค ด้วยรสชาติ 4 ระดับ คือ 40 ดีกรี 35 ดีกรี 30 ดีกรี และ 28 ดีกรี โดยมีราคาขายต่ำกว่า 15%
หลังจากตลาดเหล้าขาวแล้ว ตะวันแดงจะเปิดตัวสู่ตลาดเหล้าสี วิสกี้ ฯลฯ เป็นอันดับต่อไป
นั่นคือคำแถลงที่ทำให้ตลาดเหล้าเพิ่มสีสัน โดยต้องจับตาเจ้าตลาดอย่างกลุ่มเบียร์ช้าง จะต้อนรับน้องใหม่ด้วยกลยุทธ์เยี่ยงไร
และเบื้องหลังการเข้าสู่ตลาดเหล้าของกลุ่มคาราบาวเป็นสิ่งที่น่าสนใจ อาจเรียกได้ว่าเป็นโชคชะตาก็ว่าได้
เริ่มจากการรวมตัวกลุ่มคาราบาวเริ่มแรกมาจากเสถียร และแอ๊ดคาราบาว ที่ต้องการทำธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง
ครั้งนั้นการกระโดดเข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังไม่ง่ายนัก เนื่องจากมีเจ้าตลาดเดิมอยู่แล้ว
แต่ด้วยการนำ แอ๊ด คาราบาว มาเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมๆ กับการวางแผนทางธุรกิจที่ถูกต้อง ทำให้คาราบาวแดง บุกเบิกตลาดได้สำเร็จ
ทั้งหมดไปเข้าตาเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบียร์ช้างและเหล้าแม่โขง
เจ้าสัวเจริญ ติดต่อมาทาง เสถียร และแอ๊ด คาราบาว ต้องการซื้อบริษัท คาราบาว โดยยังคงให้ทีมงานเดิมบริหารงานอยู่ เพียงแต่เจ้าสัวเจริญจะถือหุ้นใหญ่
ครั้งแรกกลุ่มผู้ถือหุ้นคาราบาวตัดสินใจจะขายกิจการ ด้วยเหตุผลก็คือไม่เคยเห็นเงินขนาดนั้นมาก่อน และการอยู่ในเครือของเบียร์ช้างก็ง่ายต่อการทำธุรกิจมากกว่า
ในหลักการตกลงกันไปเรียบร้อย แต่ทว่าในขั้นลงรายละเอียดกลับมีปัญหาเกิดขึ้น
Deal เลยไม่ Done
เสถียรกับแอ๊ด จึงเดินออกมา สร้างแบรนด์คาราบาวแดงต่อไป
จนวันนี้เมื่อกลุ่มคาราบาวแดงมีความพร้อม อาทิ มีสินค้าหลักอย่างคาราบาวแดง มีระบบโลจิสติกส์ มีเครือข่ายเอเยนต์ มีร้านค้าปลีกเป็นของตัว และรวมถึงมีเงินมากขึ้น ฯลฯ จึงได้เวลาขยายธุรกิจมายังตลาดเหล้า เพื่อให้กลุ่มคาราบาวมีสินค้าหลากหลายกว่าเดิม
ตลาดเหล้าเลยเร้าใจจากผู้เล่นรายใหม่อย่างกลุ่มคาราบาว
จากที่ครั้งหนึ่งเคยจะตกเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มเบียร์ช้าง วันนี้กลับกลายเป็นคู่แข่งหน้าใหม่
โลกธุรกิจราวกับละคร เหมือนมีโชคชะตานำพาจริงๆ