posttoday

บัญชาลับเชือด “เฮียลี้” พ้น “กรุงไทย-PTTEP”

10 กันยายน 2567

ติดตาม “สัญญาณลับ-บัญชาการลึก” เพื่อเปลี่ยนผ่าน “คน-งาน-ภารกิจ” ในองค์กรขนาดใหญ่ พายุแห่งการเปลี่ยนแปลงรอบนี้ “เฮียลี้” อาจจะถูกเตะกระดอนกระเด็น พ้น “กรุงไทย-PTTEP”

บัญชาลับเชือด “เฮียลี้”  พ้น “กรุงไทย-PTTEP”

เชอร์ล็อค โอ...เป็นนามปากกาของนักข่าว ผู้มีประสบการณ์ข่าวเชิงลึก ในด้านเศรษฐกิจการเมือง การเงิน การคลัง ตลาดหุ้น ตลาดทุน และมีความสนใจในเรื่องธนกิจการเมือง เป็นพิเศษ

 

ระยะถัดจากนี้ไป ผู้ประกอบการ นักลงทุน คงต้องติดตามกันเป็นพิเศษถึง “สัญญาณลับ-บัญชาการลึก” เพื่อเปลี่ยนผ่าน “คน-งาน-ภารกิจ” ในองค์กรขนาดใหญ่

สัญญาณลับ-บัญชาการลึกกรณีแรก ปริแตกที่ IRPC นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ แจ้งขอลาออกจาก บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 

การตั้ง บุรณิน รัตนสมบัติ   เป็น กรรมการ แทน น.ส.เพียงพนอ บุญกล่ำ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในการสลับปรับเปลี่ยนคนใน PTT

กรณีตั้ง “บิ๊กกิ๋ง-พงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์”   เป็น กรรมการ แทน “ประสงค์  อินทรหนองไผ่”  ถือเป็นเรื่องที่ “ควรเข้าใจ” ในการวางคนเพื่ออนาคตของ PTT

กรณีตั้ง “พล.ต.ท.นพ. โสภณรัชต์ สิงหจารุ”  แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ/ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น กรรมการอิสระ  แทน น.ส.สิริวรรณ เจียระพงษ์  ใครไม่เข้าใจขอให้ยกมือขึ้น!

กรณีตั้ง “แรมโบ้-เสกสกล อัตถาวงศ์”  เข้ามาเป็น กรรมการอิสระ  แทน นางประณต  ติราศัย  ในช่วง วันที่ 23 สิงหาคม 2567  เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ...แต่มันเกิดขึ้นแล้ว!

กรณีการตั้ง  เทอดเกียรติ พร้อมมูล  เข้าเป็น กรรมการ  และ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567  เป็นเรื่องการสลับสับเปลี่ยนคนของ “ผู้ว่า ปตท.”

การไม่มีการเปลี่ยนตัว “เอิง”-นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทย และโครงการ The Change Maker พรรคเพื่อไทย ที่เข้าไปเป็นกรรมการ IRCP ก่อนหน้านี้ ยิ่งเป็นเรื่องที่ควรเข้าใจ

แต่ยินดีปรีดาเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น “แรมโบ้-นายเสกสกล อัตถาวงศ์” ได้ยื่นหนังสือขอลาออก จากการเป็นกรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ชนิดที่ผู้บริหารในบริษัทแม่ ยังมึนงงสงสัย...

ว่าทำไม “แรมโบ้” ต้องลาออกจากบอร์ด ในองค์กรที่ทำรายได้ปีละ 161,543 ล้านบาท และจ่ายค่าตอบแทนให้กรรมการและผู้บริหารราว 13-14 คน เฉลี่ยปีละ 80 ล้านบาท หรือคนละ 5.7 ล้านบาทต่อปี ตกเดือนละ 4.7 แสนบาท/คน

โถพ่อ!ก็ในระยะ 8-9 ปี ที่ผ่านมา แรมโบ้คนนี้มิใช่หรือ ที่เล่นเลยเถิดเป็นกามิกาเซ่ ถล่ม“บ้านจันทร์ส่องหล้า” แทบทุกเม็ด เอาใจลุงเสียขนาดนั้น “V1-ตัวจริง” มีหรือจะยอมให้เข้ามานั่งเป็นบอร์ดในองค์กรที่เป็นแฟล็กชิปของ PTT

สัญญาณลับ “เอามันออกไป” ไม่มีใครสามารถขวางได้ “แม้แต่คนกลาง” ก็ต้องยอมถอยให้...

นี่คือกรณีแรก ของการเปลี่ยนผ่าน “คน-งาน-ภารกิจ” ในยุค “ครม.ครอบครัว&ครม.ครอบครอง

กรณีที่สอง ขอให้ทุกท่านติดตามเรื่องราวของ “เฮียลี้” ผู้ยิ่งใหญ่ที่ฟักตัวเป็นกรรมการมาอย่างยาวนาน ใน “กลุ่มบริษัท ปตท.-ก.ล.ต.-ธนาคารกรุงไทย” กันให้ดีๆห้ามกระพริบตา

บัดนี้ พายุแห่งการเปลี่ยนแปลง กำลังก่อตัวขึ้นเพื่อกระแทกใส่ “เฮียลี้” อย่างรุนแรง ชนิดที่ใครก็คาดไม่ถึง

พายุแห่งการเปลี่ยนแปลงลูกนี้ จะรุนแรงชนิดที่ “เฮียลี้” อาจต้องค้นพจนานุกรมฉบับภาษาไทยให้ดีว่า ลี้...อาจหมายถึงหลีกหนี,หลบ,ซ่อนตัว,ซ่อน หลีกหนีไป หลบหนีไป...

พายุแห่งการเปลี่ยนแปลงรอบนี้ “เฮียลี้” อาจจะถูกเตะกระดอนกระเด็น ชนิดที่ไม่สามารถใช้มาตราวัดระยะทางของจีน 1 ลี้ เท่ากับครึ่งกิโลเมตร มาเทียบวัดได้

สัญญาณลับ บัญชาการลึก ระบุว่า “V1-ตัวจริง” ได้พูดคุยกับ “เฮียลี้” ต่อหน้าว่า “คุณได้เวลาพัก จากการฟักตัวมายาวนาน จนเสมือนเป็นเจ้าของปตท.-ธนาคารกรุงไทย-ก.ล.ต. ได้แล้ว”....อุ๊บ แรงไปมุ้ยตะเอง!

หลายคนอาจไม่รู้จัก “เฮียลี้” แต่ถ้าพิจารณาตามท้องเรื่องแล้ว เฮียลี้ ผู้ที่กำลังโดนพายุถาโถมเข้าใส่ในตอนนี้ ต้องไม่พ้นคนโตตัวเล็กที่ชื่อ “ไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย” นักการเงินมือดีระดับปรมาจารย์ผู้ซ่อนกายแน่นอน

ปัจจุบัน เฮียลี้-ไกรฤทธิ์ เข้าไปนั่งเป็น ประธานกรรมการ ในหลายองค์กร และการที่จะให้เขาต้องออกจากตำแหน่งมิใช่เรื่องง่ายๆ

หนึ่งนั้นเพราะ ไกรฤทธิ์ เข้านั่งเป็นประธานกรรมการ ในบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เมื่อ 1 ก.พ. 2564 และถีบตัวเข้านั่งเป็นประธานกรรมการอิสระ เมื่อ 21 พ.ค. 2564 อันว่ากรรมการอิสระนั้น มิใช่เรื่องที่ รัฐมนตรี หรือใครจะบอกให้ออกได้ง่าย เพราะ  “อิสระ” ที่มาจากผู้ถือหุ้น

ปัจจุบัน “เฮียลี้-ไกรฤทธิ์” เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ใน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งได้รับการสรรหาและคัดเลือกมาจากกระทรวงการคลัง ในยุค”อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” เป็นรัฐมนตรีให้มานั่งเป็นบอร์ดก.ล.ต.ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564

พรายกระซิบแจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ค.2567 “บอร์ด ก.ล.ต.4 คน” ประกอบด้วย “วิพุธ อ่องสกุล-ศุภมิตร เตชะมนตรีกุล-บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร-ไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย

ทว่า...จนปัจจุบัน ทั้ง 4 คน ยังเป็นบอร์ด ก.ล.ต. เช่นเดิม พายุลูกนี้จะทำให้”เฮียลี้-ไกรฤทธิ์”ซวนเซหรือไม่รอลุ้น!

แต่ที่แน่ๆ พายุทอร์นาโดลูกใหญ่ จะซัด “เฮียลี้-ไกรฤทธิ์” ให้พ้นเก้าอี้  “ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย”ที่ครองตำแหน่งมาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2558 ในยุค “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จนถึงบัดนี้เขาครองตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ธนาคารรัฐแห่งนี้มายาวนานร่วม 9 ปี

ในรอบ 8-10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารแห่งนี้มีการเปลี่ยนบอร์ดมาตลอด แต่มีเพียง 4 คนเท่านั้น ที่ไม่เคยเปลี่ยน

  1. ศ.(พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม วัย 65 ปี ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการธนาคาร ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน และกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2557
  2. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ กลุ่ม บจ.วี. กรุ๊ป ฮอนด้าคาร์ส์ และบริษัทในเครือ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการในธนาครกรุงไทยครั้งแรกเมื่อวันที่  15 ตุลาคม 2558
  3. นายธันวา เลาหศิริวงศ์ อดีตรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที วัย 58 ปี กรรมการอิสระ ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน กรรมการตรวจสอบ และกรรมการกำกับดูแลความเสี่ยง เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นบอร์ดเมื่อ 26 มกราคม 2559
  4. ผยง ศรีวณิช วัย 55 ปี ที่ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการบริหาร และกรรมการกำกับดูแลความเสี่ยง เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2559 เร็วๆนี้ ผยงได้รับการต่ออายุเป็นรอบที่ 3 ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ผยงจะเป็นทำลายสถิติ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ยาวนาน 12 ปี!

ถือเป็นสถิติของธนาคารกรุงไทย ที่บอร์ด 4 คนนี้ ดำรงตำแหน่งในฐานะกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร มาอย่างยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ปี 2509 ที่มีการควบรวมธนาคารเกษตร จำกัด และธนาคารมณฑล จำกัด เข้าด้วยกัน

ระยะเวลา 8-9 ปี มานี้ การเติบโตของธนาคาร รายได้จากการทำธุรกิจ ล้วนมาจากการ กำกับ ดูแล สั่งการ และตัดสินใจในมือของ 4 คนนี้แทบทุกเรื่อง จนพนักงานธนาคารสีฟ้านกวายุภักดิ์ผู้กินลมเป็นอาหาร นึกว่า 4 คนนี้ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารไปแล้ว

อาจด้วยการอยู่ในธนาคารรัฐที่ยาวนาน ทำให้การอนุมัติการทำธุรกิจ การให้สินเชื่อ การวางแผนยุทธศาสตร์ ล้วนแล้วอยู่ในอุ้งมือของ ”เฮียลี้-ไกรฤทธิ์”

ผยง” คือ ธนาคารกรุงไทย ฉันใด

ไกรฤทธิ์” คือขาใหญ่ตัวจริงในแบงก์วายุภักดิ์ ฉันนั้น!

บัดนี้ พายุแห่งการเปลี่ยนแปลง “คน-งาน-ภารกิจ” ในแบงก์กรุงไทย-ปตท.สผ.-ก.ล.ต.กำลังคืบคลาน ด้วยความเร็วลมระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังหมุนติ้วๆๆ

เพี้ยง! ขอให้แคล้วคลาด ปลอดภัย!