“แพทองธาร” กับ Soft Power แห่ง Thainess บนเวทีการเมืองไทย
“แพทองธาร ผู้นำยุคใหม่กับ ‘Thainess ที่มีชีวิต’ เสน่ห์ Soft Power สะท้อนบุคลิกอ่อนน้อมแต่หนักแน่น นักสู้เลือดใหม่ที่เติบโตจากพายุการเมือง พร้อมนำไทยก้าวสู่เวทีโลก”
ในฐานะที่ติดตามการเมือง คนการเมือง ไทย มาโดยตลอด และเป็นผู้ผลักดันแนวคิด “วัฒนธรรมสร้างชาติ” ผ่านรายการโทรทัศน์มาหลายปี
จากสายตาคนที่เฝ้ามองทุกฝีก้าวของผู้นำการเมืองไทย
“แพทองธาร ชินวัตร” หรือ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” นับตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้สร้างความสนใจในทุกเวทีที่เธอไปเยือน ทั้งต่างประเทศและบนเวทีในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการแถลงข่าว หรือการเปิดตัวรายการ “นายกฯ พบประชาชน” ผ่านโทรทัศน์ มีการวิพากษ์ วิจารณ์ เชียร์ ชอบ ไม่ชอบ ถือเป็นเรื่องปกติ ของคนการเมือง นายกรัฐมนตรี ที่มาจากพรรคการเมือง มาจาก ประชาชน คงหนีไม่พ้น และะเป็นเรื่องปกติของ “ประชาธิปไตย” ส่วนตัวจึงอยาก ขอนำเสนอความเห็น ความรู้สึกของตัวเอง อย่างไม่ลังเล ต่อบุคลิกภาพ ของท่าน นายก “อุ๊งอิ๊ง”
“นี่ล่ะ Soft Power บุคลิกภาพ Thainess!”
Thainess ที่มีชีวิต ถ้าพูดถึงบุคลิกภาพของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง เธอเป็นมากกว่าผู้นำทางการเมือง แม้อายุยังน้อย ประสบการณ์ยังน้อย แต่สิ่งที่เธอมีและแสดงออกมา สำหรับผม คือ “Thainess ที่มีชีวิต” เธอเป็นภาพสะท้อนของความเป็นไทยที่สมดุล ย้ำ “สมดุล” มิใช่ “สมบูรณ์” อ่อนน้อม แต่หนักแน่น อ่อนโยนแต่เฉียบคม ยิ้มแย้ม จริงจัง จริงใจ เธอไม่ใช่แค่ “ลูกสาวทักษิณ” อย่างที่บางคนมอง แต่เธอคือ “นักสู้เลือดใหม่” ที่เติบโตจากครอบครัวที่ผ่าน พายุการเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาว เรียนรู้จากอดีต แต่ไม่ยอมเป็นเชลยของมัน สิ่งที่ทำให้เธอโดดเด่นคือ “แววตาแห่งความแน่วแน่” ที่ฉายชัด เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ และภายใต้ความมุ่งมั่นนั้น เธอมีความอ่อนโยนแบบธรรมชาติ สิ่งที่นักการเมืองยุคเก่าหลายคนไม่มี
เสน่ห์ของ “Soft Power”
ความเป็นไทยของเธอ ไม่ใช่แค่เรื่องมารยาทหรือกิริยาท่าทาง หากแต่คือ “ศิลปะแห่งสมดุล”
รู้ว่าเมื่อไรต้องนอบน้อม และเมื่อไรต้องยืนหยัด รู้ว่าเมื่อไรต้องพูดหนัก และเมื่อไรต้องเบา
เมื่อเธอยิ้ม มันไม่ใช่รอยยิ้มทางการเมือง แต่เป็นรอยยิ้มที่สดใส จริงใจ และ “ดึงดูด” คนไทยและต่างชาติให้เชื่อมโยงกับเธอโดยไม่รู้ตัว เสียงที่เธอเปล่งออกมาฉะฉาน เชื่อมั่น มีไหวพริบ ฉลาด แต่ไม่แข็งกร้าว
ถ้อยคำที่เธอเลือกใช้ ง่ายๆ จริงใจ แต่ไม่เผชิญหน้า ภาษากายของเธอ สดใส แต่ไม่เสแสร้ง
ทั้งหมดนี้ทำให้เธอแตกต่างจากนักการเมืองรุ่นเก่า เธอไม่ได้พยายาม “สวมบทบาทผู้นำ” แต่เธอเป็นผู้นำในแบบของเธอเอง
นี่ล่ะ “Thainess”
กุญแจสำคัญสู่การเป็น “ตัวจริง”
ในโลกการเมืองที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เล่เหลี่ยม และความแข็งกร้าว ผู้นำหลายคนใช้ความแข็งแกร่งและการโอ้อวดเป็นอาวุธ แต่ อุ๊งอิ๊ง ใช้เสน่ห์แห่งความอ่อนโยน นอบน้อม แต่่จริงจัง
แววตา ท่าทาง รอยยิ้ม และความเป็นธรรมชาติของเธอ เป็นอาวุธที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้
และบางที นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เธอกลายเป็น “ตัวจริง” ในสนามการเมืองแห่งศตวรรษนี้ ด้วยอายุ ด้วยความสดใส ด้วย Thainess ที่เปล่งประกาย และนี่แหละ“Soft Power” ที่แท้จริงของผู้นำแห่งยุคสมัย
