ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายได้และกำไร...ก่อนที่จะเสียภาษีธุรกิจ SME
การเข้าใจรายได้และกำไรเป็นหัวใจสำคัญของการเสียภาษีธุรกิจ SME เพราะช่วยให้ปฏิบัติตามกฎหมายได้ถูกต้อง บริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ และลดภาระภาษีอย่างเหมาะสม เรียนรู้แนวทางวางแผนภาษีเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง
การเข้าใจถึงโครงสร้างรายได้ การบริหารกำไร และเงื่อนไขการเสียภาษีที่เกี่ยวข้อง ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการด้านการเงิน ช่วยลดต้นทุนทางภาษี และช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
บทความนี้จะช่วยแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับรายได้และกำไร พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงเงื่อนไขและแนวปฏิบัติที่ธุรกิจ SME ควรรู้เกี่ยวกับการเสียภาษี เพื่อให้สามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยจากปัญหาทางกฎหมาย
รายได้...ในทางภาษีคืออะไร
รายได้ หมายถึง เงินหรือมูลค่าที่บุคคลหรือองค์กรได้รับจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำงาน การขายสินค้าและบริการ การลงทุน หรือการได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ภายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง รายได้เป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิตและการดำเนินธุรกิจ เพราะสามารถนำไปใช้จ่าย ต่อยอด หรือเก็บออมเพื่ออนาคต โดยรายได้สามารถเกิดขึ้นได้จากแหล่งต่างๆ และมีลักษณะหลากหลายขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ดำเนินการหรือแหล่งที่มาของรายได้นั้นๆ
ทั้งนี้รายได้ที่กิจการได้รับก่อนที่จะหักค่าใช้จ่ายและต้นทุนใดๆ โดยรายได้ในลักษณะนี้ยังไม่ถือเป็นเงินได้สุทธิที่จะใช้ในการคำนวณภาษี จะต้องนำไปหักค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนที่เกี่ยวข้อง และลดหย่อนตามที่กฎหมายกำหนดเสียก่อน จึงจะได้ เงินได้สุทธิ เป็นฐานในการคำนวณภาษี
และในมุมมองของภาษี รายได้ดังกล่าวอาจมีภาษีที่เกี่ยวข้องดังนี้
1.ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีรายได้เกิน 60,000 บาทต่อปี (ไม่นับรวมเงินเดือน) มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี รวมถึงหากมีรายได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปี (รายได้ทั้งหมดตลอดปี-ค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด = เงินได้สุทธิ) โดยนำส่วนที่เกิน 150,000 บาท มาคำนวณตามอัตราภาษีก้าวหน้า หรือภาษีขั้นบันได ก็ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเช่นกัน
2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) หากกิจการมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท (โดยคิดจากรายได้ทั้งหมดไม่ใช่เฉพาะแค่กำไรเพียงอย่างเดียว) ต้องดำเนินการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน และจัดเก็บภาษีเพื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กรมสรรพากร ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป เช่น รายได้เดือนมกราคม ให้ยื่นภาษีภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้หากเดือนใดไม่มีรายได้ ก็ต้องยื่นแบบภาษีเช่นเดียวกัน
กำไร...ในทางภาษีคืออะไร
กำไร หรือ กำไรสุทธิ หมายถึง ผลตอบแทนที่กิจการหรือธุรกิจได้รับหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดออกจากรายได้ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้รวมถึงต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ค่าภาษี และดอกเบี้ยเงินกู้ กำไรสุทธิจึงสะท้อนถึงผลประกอบการที่แท้จริงของกิจการว่ามีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีเพียงใด
ทั้งนี้ในบริบทของธุรกิจ กำไรสุทธิเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจของผู้บริหาร นักลงทุน และเจ้าหนี้ หากกิจการมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่ากิจการมีความมั่นคงทางการเงินและมีโอกาสเติบโตในอนาคต ในทางกลับกันหากกำไรสุทธิลดลงหรือขาดทุน อาจสะท้อนถึงปัญหาทางการบริหาร ต้นทุนที่สูงเกินไป หรือรายได้ที่ลดลง
โดยกำไรสุทธิจะเกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งกฎหมายกำหนดให้นิติบุคคลมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ
กล่าวโดยสรุป รายได้และกำไรมีความสัมพันธ์กันในมุมของการจัดการภาษี เนื่องจากรายได้ถือเป็นฐานเริ่มต้นในการคำนวณภาษี ในขณะที่กำไรจะสะท้อนถึงผลลัพธ์ที่แท้จริงหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดออกจากรายได้ ซึ่งรายได้หมายถึงจำนวนเงินหรือมูลค่าที่กิจการได้รับจากการดำเนินงาน เช่น การขายสินค้า การให้บริการ หรือรายได้อื่นๆ โดยรายได้ทั้งหมดนี้ต้องถูกรายงานและเสียภาษีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามการเสียภาษีไม่ได้พิจารณาจากรายได้ทั้งหมดเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาจากกำไรสุทธิด้วย ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว เช่น ต้นทุนสินค้า ค่าแรง ค่าเช่า และค่าเสื่อมราคา คือกำไรสุทธิ
โดยในทางปฏิบัติ กำไรเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการกำหนดจำนวนภาษีที่กิจการต้องชำระ หากกิจการมีรายได้สูงแต่มีค่าใช้จ่ายมากจนมีกำไรสุทธิน้อย หรือขาดทุน อาจไม่ต้องเสียภาษีในปีนั้นๆ แต่หากกิจการมีกำไรสูง จะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้นตามโครงสร้างภาษี ในบางกรณีกฎหมายภาษียังอนุญาตให้กิจการใช้ประโยชน์จากสิทธิหักลดหย่อน เช่น การลงทุนในโครงการที่รัฐสนับสนุน ซึ่งจะช่วยลดกำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษี
ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างรายได้และกำไรในมุมมองภาษีคือ รายได้เป็นพื้นฐานในการประเมิน แต่กำไรสุทธิเป็นตัวกำหนดภาระภาษีที่แท้จริง การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสมจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพภาษีและการดำเนินงานของกิจการ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ Inflow Accounting