มองเกมซักฟอก เก็งข้อสอบฝ่ายค้าน ขึง "นายกอิ๊ง แพทองธาร"กลางสภา

 

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร  ชินวัตร หลังการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เพียงคนเดียว ของพรรคฝ่ายค้าน คาดว่า 19 มี.ค.68 นี้จะได้ข้อสรุป 

 

หลังจากทั้งฝากรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างเปิดเกมการเมืองก่อนการอภิปรายมาตลอด  ตั้งแต่ก่อนจะมีการยื่นญัตติต่อประธานสภาฯอย่างเป็นทางการ 27 ก.พ.68 ไม่ว่าการเปิดเป้าหลอกว่าจะอภิปรายถึง 10 รัฐมนตรี จนในที่สุดล็อกเป้าเหลือแค่ นายกอิ๊ง แพทองธาร เพียงคนเดียวพ่วงชื่อ ทักษิณ  ชินวัตร ผู้เป็นบิดา 

 

จนฝ่ายรัฐบาลออกแรงแก้เกมกดดัน ให้ตัดชื่อทักษิณ ออกจากญัตติ ได้รับการขานรับจากประธานสภาฯ ยืนยันหากไม่ตัดชื่อออกจะไม่บรรจุวาระอภิปราย  ในที่สุด ฝ่ายค้านยอมปรับชื่อออกจากญัตติ โดยจะปรับไปใช้ชื่ออื่นแทน 

 

การกำหนดวันอภิปราย จากที่ฝ่ายค้านป่าวประกาศว่าต้องการ 5 วันในการอภิปราย เป็นเกมการเมืองที่ต่อสู้กันของ 2 ฝ่าย ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเข้มข้นเช่นกัน ซึ่งในประเด็นนี้รอลุ้นกันว่าจะมีผลออกมาอย่างไร 

 

วันอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเกมที่สู้กันดุเดือด โดยฝ่ายค้านยืนยันขอเวลา 30 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาของฝ่ายบริหาร และ รัฐบาล หรือใช้เวลา 3 วัน บวก ลงมติ 1 วัน แต่ทางวิปรัฐบาล อย่าง วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลับยืนยันขันแข็งว่า ให้เวลาฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง อภิปราย 2 วัน บวกลงมติ 1 วัน สุดท้ายจะออกมาเช่นไร ลุ้นกันไป

ประเด็นการต่อสู้  กลเกมการเมืองก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อสู้กันดุเดือดก็จริง แต่ที่น่าจับตาอีกอย่างก็คือ เกมในสภาของเหล่าบรรดาองครักษ์พิทักษ์ นายก อิ๊ง แพทองธาร เพราะรอบนี้ เกมฝ่ายค้าน คือ จับ นายกคนเดียวมาขึง กลางสภา

 

ด้วยประสบการณ์ทางการเมือง ด้วยวัยวุฒิของนายกรัฐมนตรี น่าจับตายิ่งว่า จะตายทางการเมืองในสภาหรือไม่ และ บรรดาองครักษ์จะแก้เกมสดในสภาอย่างไร

 

ไม่ว่า ทักษิณ  ชินวัตร หรือเหล่าบรรดาพี่เลี้ยง จะออกมาการันตีว่า นายกอิ๊ง แพทองธาร คลุกคลีกับการเมืองมาตั้งแต่เด็ก แต่ จากบทบาทในฐานะนายกรัฐมนตรี ในเวทีการให้สัมภาษณ์สด ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย

 

ไม่ว่า ทักษิณ และ เหล่าพี่เลี้ยงจะประกาศว่านายก อิ๊ง แพทองธาร  มีดีเอ็นเอ ของผู้เป็นบิดามาเต็มเปี่ยม แต่ย้อนอดีตกลับไป ทักษิณ ไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อน ในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

 

ในช่วงของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เขาสามารถกุมเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนกระทั้งกลไกลตรวจสอบด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากสภาไม่สามารถทำงานได้ การแสดงบทบาทของ ทักษิณ เป็นการแสดงบทบาททางการเมืองข้างเดียวผ่านเวทีต่างๆของตนเท่านั้น 
 

ประเด็นที่สำคัญยิ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายก อิ๊ง แพทองธาร ครั้งนี้ก็คือ  ประเด็นต่างๆ ที่ฝ่ายค้าน หยิบขึ้นมาอภิปราย หาก ฝ่ายค้านสามารถนำข้อมูลเชิงลึก มีเหตุมีผล ชี้ให้เห็นถึงปัญหาได้อย่างถึงพริกถึงขิง ได้หรือไม่ ไม่ใช่เป็นข้อมูลที่ปรากฎบนสื่อเท่านั้น มิฉะนั้นเท่ากับตกม้าตาย ตามที่ถูกฝ่ายรัฐบาลปรามาส สบประมาทไว้ก่อนหน้านี้  

 

สำหรับรายละเอียดของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านยื่น อภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สรุปได้ 6 ประเด็นดังนี้

 

0ไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง ขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่แก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน ส่งผลทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติ

0จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บิดา ครอบครัว และพวกพ้องเป็นตัวตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม

0ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย

0บริหารบ้านเมืองผิดพลาดล้มเหลวอย่างร้ายแรงทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา

0เจตนาและปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การบริหารงานของตนเอง ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริตไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น

0สมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ

 

สำหรับประเด็นการอภิปราย  หากจะเก็งข้อสอบ การกล่าวหา ที่จะพุ่งเป้าตรงไปที่บทบาทนายก  เลี่ยงการโยนให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบมาตอบแทนนับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ จะมีเรื่องอะไรบ้าง จะใช่เรื่องเหล่านี้หรือไม่ 

 

-นโยบาย ซอฟต์พาวเวอร์   นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ดังนั้น จึงมีบทบาทความรับผิดชอบโดยตรง ที่ผ่านมา รัฐบาลได้วางการพัฒนาชอฟต์พาวเวอร์ ใน 11 ด้าน ดึงเงินมาจากหน่วยงานต่างๆ รวม 5,000 ล้านบาท ซึ่ง ในการบริหารผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งในแง่การใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า จัดสรรงบประมาณไม่เหมาะสม มุ่งเน้นแต่งานอีเว้นท์ไม่สามารถผลักดันเชิงเนื้อหา และ มีข้อครหาในความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ  และ มีข้อสงสัยในเรื่องระเบียบการใช้จ่ายเงินรองรับ 

-การถือครองที่ดินสนามกอล์ฟ อัลไพน์  ประเด็นปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นใน บ.อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำนวน 224.1 ล้านหุ้น ซึ่งโอนให้กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นมารดา ก่อนมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ล่าสุด กรมที่ดินสั่งเพิกถอนที่ดินให้กลับเป็นของธรณีสงฆ์ ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการใดๆ 

-การบริหารนโยบายเศรษฐกิจล้มเหลว  ประเด็นเศรษฐกิจ คาดว่าจะมีการแตกประเด็นในหลายประเด็น ทั้ง 

         การแจกเงินดิจิทัล10,000 บาทไม่ตรงปก ไม่ตรงกับที่ใช้เป็นนโยบายหาเสียง ไม่สามารถกระตุ้น GDP ของประเทศให้กระเตื้องขึ้นได้  ก่อให้เกินหนี้สาธารณะจำนวนมาก ไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ 

         ตลาดหุ้นทรุดหนัก เกิดจากบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวจนนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ดัชนีตลาดหุ้นลดลงอย่างหนัก ทำให้ความมั่งคั่งหดหาย  มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปหดหายกว่า 2 ล้านล้านบาท 

         การแทรกแซง ธนาคารแห่งประเทศไทย  มีความพยายามกดดัน ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายผ่านคณะกรรมการการเงิน (กนง.) พยายามส่งคนของตัวเองเข้าไปเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ  ซึ่ง สะท้อนได้จากเหตุผลที่ Central Banking Publications ซึ่งเป็นสื่อชั้นนำด้านธนาคารกลางระดับโลก ยกเหตุผลในการให้รางวัลกับ  ธนาคารกลางแห่งปี 68 ว่า การรักษาสมดุลอย่างชาญฉลาด ท่ามกลางความท้าทายศก.-อิสระจากการเมือง ในการบริหารนโยบายการเงิน
   
ในขณะประเด็น ยินยอมให้บิดา ชี้นำ ชักจูง ครอบงำ ฯ ถือเป็นเรื่องใหญ่และเป็นที่จับตาในการอภิปรายอย่างมาก ซึ่ง มีเหตุที่ฝ่ายค้านสามารถนำมาอภิปรายโจมตีได้ตั้งแต่ 

การจัดตั้งรัฐบาลแพทองธาร ที่ บ้านจันทร์ส่องหล้า การเจรจาดีลกับ ครูใหญ่การเมืองพรรคร่วมรัฐบาลฯ และยังมีประเด็นการนำเสนอประเด็นนโยบายจาก บิดา แล้ว รัฐบาลแพทองธารนำมาปฎิบัติ เช่น 

-แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
-แก้ปัญหาหนี้สินและลดค่าครองชีพ
-เสนอให้กำหนดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ 20 บาทตลอดสาย
- การพัฒนาเศรษฐกิจใต้ดิน การจัดตั้ง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การผลักดัน การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เป็นต้น 

 

ประเด็นเหล่านี้คาดว่าจะถูกนำมาอภิปรายใส่ตรงถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องจับตาดูว่า จะมีมากน้อยเพียงใด และจะมีหลักฐานน้ำหนัก นำไปสู่เป้าหมายทางการเมืองที่ตั้งไว้หรือไม่ สังคมโดยรวมต้องรอดูเมื่อถึงเวลาแสดงจริงหลังมีการโหมโรงเปิดศึกวางเกมการเมืองมาตั้งแต่ก่อนการเปิดซักฟอกของจริง.