ปัจจัยปี 64 ที่เอสเอ็มอีต้องจับตา
คอลัมน์ จับทิศธุรกิจเอสเอ็มอี
เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน ติดลบ 4.2 ลดลงจากเดือนสิงหาคม (ข้อมูลจากสมาคมธนาคารไทย) และมีการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศจากมาตรการ “คนละครึ่ง” และ “ช้อปดีมีคืน” จากภาครัฐ
ซึ่งมาตรการนี้ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อไปถึงระดับฐานราก อยากให้ทำต่อเนื่อง
เทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 64 ซึ่งจับเทรนด์ตามกระแสตลาดโลก
คือ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อม และพลังงานสะอาด สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งดูจากนโยบายหาเสียงของว่าที่ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ค่อนข้างเห็นได้ชัด
ส่วนภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่มีสัญญานการฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ยังต้องระวังปัญหาจากมาตรการ การผ่อนคลายลดการกักตัว (State Quarantine) เหลือ 10 วัน เพื่อหวังว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยว
ในขณะที่มีการแพร่ระบาดรอบ 2 ประเทศในกลุ่ม EU และสแกนดิเนเวีย ซึ่งถือเป็นกลุ่มตลาดHigh end ที่หวังให้มาท่องเที่ยวทางภาคใต้ ซึ่งกำลังซบเทรา
จากตัวเลขธุรกิจท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว มีมูลค่าถึง 1.7 พันล้านบาท (ข้อมูลจากสมาคมธนาคารไทย) และคาดว่าช่วงเดือนธันวาคม
ที่มีเทศกาลวันหยุดยาวฉลองปีใหม่จะทำให้ตัวเลขมูลค่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2 เท่า ธุรกิจสินค้าอุปโภค บริโภค ของขวัญของฝากจะกลับมามีทิศทางเป็นบวก
จากเทศกาลช่วงนี้ ในส่วนภาคเอกชนมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ที่จะส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมัน หากภาครัฐสามารถควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรงจนบานปลายเชื่อว่า
ในปีหน้าเศรฐกิจไทยจะมีทิศทางไปแนวทางบวก เพราะขณะนี้ไทยเราถือว่าผ่านจุดต่ำสุดทางเศรษฐกิจไปแล้ว