ทอท.เสนอแผนเร่งด่วน4ด้าน แก้ปัญหาสนามบินดอนเมืองแออัด

ทอท.เผยสนามบินดอนเมืองส่อแออัดระยะยาว เล็งจับเข่าคุยโลว์คอสต์ขอเพิ่มขนาดเครื่องบิน พร้อมแจงแผนแก้แออัดระยะเร่งด่วน 4 ด้าน

เรืออากาศโท สัมพันธ์ ขุทรานนท์  รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมืองปัจจุบันสนามบินดอนเมืองเผชิญกับปัญหาแออัดเป็นอย่างมาก จากปริมาณผู้โดยสารเกินขีดความสามารถในการรองรับ โดยในปี 2562 คาดว่าผู้โดยสารจะเติบโต 2% ที่ 40 ล้านคน ส่วนปี 2463 จะเพิ่มขึ้นเป็น 41 ล้านคนและปี 2566 จะอยู่ที่ 45 ล้านคน แม้ว่าการขยายสนามบินจะสามารถเพิ่มการรองรับผู้โดยสารได้ 40 ล้านคนจากปัจจุบันมีศักยภาพได้แค่ 30 ล้านคน แต่ทว่าไม่สามารถขยายรันเวย์สนามบินได้ ดังนั้นเที่ยวบินที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป ทำให้ในอนาคตจะเกิดผัญหาคอขวดทางภาคอากาศและอาจส่งผลให้เที่ยวบินดีเลย์ได้ในบางครั้ง

ล่าสุด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้เตรียมหารือกับเอกชนผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำซึ่งมีสัดส่วนเที่ยวบินจำนวนมากที่สนามบินดอนเมือง โดยจะขอให้เอกชนขยายขนาดเครื่องบินเป็นแบบลำตัวกว้าง (Wide Body) ให้สามารถบรรทุกผู้โดยสารให้มากกว่า 300 คนต่อเที่ยวบิน จากปัจจุบันใช้เครื่องบินขนาดเล็กบรรทุกผู้โดยสาร 100-200 คนต่อเที่ยวบิน เนื่องจากสนามบินดอนเมืองไม่สามารถเพิ่มปริมาณเที่ยวบินได้อีกแล้ว เพราะไม่สามารถก่อสร้างรันเวย์ใหม่ ติดข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ปัจจุบันสามารถรองรับเที่ยวบินได้สูงสุด 52 เที่ยวบิน/ชม. หรือราว 700-800 เที่ยวบิน/วัน และตอนนี้เที่ยวบินเต็มเพดานแล้ว

สำหรับแนวทางแก้ปัญหาความแออัดของสนามบินดอนเมืองระยะเร่งด่วนตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นั้นประกอบด้วย

1. แก้ปัญหาความแออัดบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทาง ด้วยการเพิ่มพื้นที่ Visa On Arrival จาก 639 ตารางเมตร เป็น 900 ตารางเมตร ขณะนี้ดำเนินการเสร็จและเปิดบริการแล้ว ตลอดจนการจัดเตรียมน้ำดื่มเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารบริเวณพื้นที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ขาเข้า รวมถึงงานปรับปรุง/ขยายพื้นที่ Visa On Arrival ด้านทิศเหนือ (จาก 900 ตารางเมตร เป็น 1,500 ตารางเมตร)

2.แผนเพิ่มศักยภาพจุดตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) โดยเพิ่มช่องตรวจ ตม. ขาเข้า จาก 39 ช่องตรวจ เป็น 51 ช่องตรวจ ควบคู่กับเพิ่มจุดตรวจ ตม.ขาออก จาก 36 ช่องตรวจ เป็น 40 ช่องตรวจ พร้อมทั้งได้เพิ่มบุคลากรแล้ว 170 คน, พร้อมกับขยายช่องตม.ขาออกจาก 36 ช่องเป็น 51 ช่อง ใช้เวลาบริการ 25 วินาทีต่อผู้โดยสาร 1 คน อย่างไรก็ตามขณะนี้จัดทำแบบดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนพัสดุ คาดว่าจะทำสัญญาได้ภายใน ธันวาคม 2562 สัญญาก่อสร้าง 150 วัน ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน เมษายน 2563

3.การปรับ/เพิ่มกล้องให้สามารถมองเห็นผู้โดยสารบริเวณช่องตรวจ ตม.ทั้งขาเข้าและขาออกพร้อมทั้งบริเวณ Visa On Arrival เพื่อบริหารปริมาณผู้โดยสารแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2562 นอกจากนี้ยังมีการจัดทำป้ายแนะนำทางเลื่อนและบันไดเลื่อนอีกด้วย

4.งานปรับปรุงระบบจัดเก็บเงินอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น ดำเนินการเปลี่ยนแปลงระบบเพื่อให้มีความทันสมัย สามารถบริหารจัดการช่องจอดรถยนต์ และระบบเก็บเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะสามารถจัดหาและติดตั้งระบบทั้งหมดแล้วเสร็จ ภายในเดือนตุลาคม 2563 ทั้งนี้ ในระหว่างรอดำเนินการ จะมีการปรับปรุงระบบเดิมให้ผู้ใช้บริการสามารถรับบัตรเข้าจอดได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้พนักงานในการคีย์ข้อมูลจ่ายบัตรเพื่อลดความผิดพลาดในระบบจัดเก็บค่าบริการ และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2562