ระยองประกาศภาวะฉุกเฉิน เหตุเพลิงไหม้ถังสารเคมี ท่าเรือมาบตาพุด
ระยองประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 หลังเกิดเหตุไฟไหม้ถังสารเคมี ในเขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด สั่งอพยพคนออกนอกพื้นที่
ที่จ.ระยอง เกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังสาร Pyrolysis gasoline (ไพโรไลซิส แก๊สโซลีน) ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ถนนไอ-แปด ท่าเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง
ต่อมา นายอัธยา นวลอุทัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ จ.ระยอง เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด และ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. สั่งการให้สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จังหวัดระยอง อพยพคนในพื้นที่โดยด่วน
ขณะที่จ.ระยองประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2
ด้านบริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด แถลงการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารไพโรไลสิส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทธร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง บริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน
โดยได้ตัดแยกระบบ และหยุดกิจกรมต่าง ๆ ภายในโรงงานตามขั้นตอนความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสาเหตุเบื้องต้น ได้รับแจ้งว่ามีผู้ใด้รับบาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว โดยเหตุดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ สารไพโรไลสิส แก๊สโซลีน เป็นสารที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพในระดับต่ำ ทางบริษัทฯ ขออภัยในเหตุที่เกิดขึ้น และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของชุมชน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ลงพื้นที่เพื่อดูแล ชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นของชุมชนบริเวณรอบโรงงาน และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่หากพบว่าได้รับผลกระทบ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อศูนย์สื่อสารหมายเลขโทรศัพท์ 038-911-995
นายกฯสั่งตั้ง War Room กำชับหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมทราบการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด พร้อมได้ประสานท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปติดตามการระงับเหตุ และป้องกันผลกระทบที่จะเกิดต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงขอให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ
โดยได้มีการเปิดห้อง War Room เพื่อประสานเหตุการณ์ในการระงับเหตุ และให้รถตรวจการณ์ EMCC เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเหนือลม และท้ายลม รวมทั้งตรวจสอบผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ชุมชนพบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ได้ประสานกับบริษัท SCG เพื่อใช้เรือในการอพยพผู้คนทางเรือ และได้อพยพคนออกมาอยู่ในจุดปลอดภัยแล้ว
“ ผมห่วงใยไปถึงพี่น้องประชาชน และได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการป้องกัน และควบคุมให้ดียิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกครับ” นายกรัฐมนตรี ระบุ