น้ำท่วม67: กรมอุตุฯเตือนรับพายุยางิส่งผลกระทบไทยเหนือ-อีสานเกิดฝนตกหนัก

ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเรื่อง พายุ "ยางิ" ฉบับที่ 3 (162/2567)

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (4 ก.ย. 67) พายุโซนกำลังแรง "ยางิ" บริเวณทะเลจีนไต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.9 องตาเหนือ ลองจิจุด 117.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลัง เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยอย่างช้าๆ โดยมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายได้ฝันต่อไป คาดว่าในช่วงวันที่ 6-7 ก.ย. 67 จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลังลงตามลำดับ 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงหนือตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.67
 

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 4 - 6 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉืองเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเอียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีมีฝนบุตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ส่วนคลื่นสมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอบบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 -3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณตั้งกล่าวเดินเรือด้วย ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย. 67 นี้ไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา
 

ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศฉบับที่ 13/2567 ลงวันที่ 1 ก.ย. 67 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 3 – 9 ก.ย. 67 พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน

ประกอบด้วย จ.ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสตูล 

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำยม แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำจันทบุรี แม่น้ำตราด แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และแม่น้ำน้อย ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

สนทช.รายงานด้วยว่า ประเทศไทยยังคงประสบอุทกภัยในพื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย 
จ.เชียงราย (อ.เทิง ขุนตาล และพญาเม็งราย)
จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรง ศรีนคร คีรีมาศ และกงไกรลาศ) 
จ.พิษณุโลก (อ.เมืองฯ บางระกำ บางกระทุ่ม ชาติตระการ และพรหมพิราม) 
จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.พระนครศรีอยุธยา เสนา บางบาล ผักไห่ บางไทร และบางปะอิน ) 
จ.หนองคาย (อ.สังคม ท่าบ่อ และรัตนวาปี) 
จ.นครพนม (อ.ศรีสงคราม และเมืองฯ) 
จ.ระยอง (อ.เมืองฯ) 
จ.ชลบุรี (อ.บางละมุง)