ป.ป.ง.ยึดทรัพย์2.5พันล้านคดีเทรดเงินดิจิทัล ให้ผู้เสียหายขอเงินคืน90วัน
ป.ป.ง. ตามยึดทรัพย์สิน 2.5พันล้านบาท คดีฉ้อโกงประชาชนหลอกลงทุนเทรดเงินเหรียญดิจิทัล ขณะราชกิจจาบุเบกษาเผยแพร่คำสั่งเรียกผู้เสียหายขอรับเงินลงทุนคืนใน90วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งที่ ย. 193/2567 ลงวันที่ 18 กันยายน 2567 ให้ยึดและอายัดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ย่านสนามบินน้ำไว้ชั่วคราวในราย นายสฤษฏ์ อดุลย์พิจิตร กับพวก มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน และพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. ได้นำคำสั่งยึดและอายัดไปติดประกาศหน้าประตูทางเข้าออกโครงการที่ยึดและอายัด รวม 52 รายการ รวมราคาประเมิน 2,561,188,503.70 บาท
ต่อมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศ เรื่อง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืบคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน (คลิ๊กอ่าน ที่มา ราชกิจจานุเบกษา)
สำหรับการยึดอายัดทรัพย์สินรายของนายสฤษฏ์ กับพวกไว้ชั่วคราวมีกำหนดไม่เกิน90วัน สืบเนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552และเห็นชอบให้เพิ่มความผิดฐานฟอกเงิน
คดีราย นายสฤษฏ์กับพวก คือระหว่างวันที่ 22 กันยายน 2565 ได้ร่วมกันประกาศ โฆษณาเผยแพร่ด้วยเอกสาร ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏ ข้อความทางอินเตอร์เน็ตในแอพพลิเคชั่นไลน์และเฟซบุ๊กใช้ชื่อบัญชีว่า "ณัฐชา องุ่น" และ "Mook"เชิญผู้เสียหายให้สมัครการใช้งานแอพพลิเคชั่น "Streaming" ชักชวนให้มาลงทุนเป็นเงินสกุลบาทโอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนดไว้เพื่อลงทุนเทรดเงินเหรียญดิจิทอล และจะได้ผลตอบแทนกำไรคืนเป็นเงินสกุลดดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นความเท็จเป็นเพียงกลอุบายที่จะหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย ผู้อื่น และประชาชนที่หลงเชื่อ เป็นเงินรวม 3,627,966 บาท
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานภายในกำหนดเวลา 90 วัน
สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำร้องฯ ได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ปปง. www.arnlo.go.th การดำเนินการยื่นคำร้องปรากฎรายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ (คลิ๊ก)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7ตุลาคม 2567 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ออกเอกสารชี้แจงกรณี มีการปลดป้ายคำสั่งยึดและอายัดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำไปปิดไว้ ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งที่ ย. 193/2567 ลงวันที่ 18 ก.ย. 2567 โครงการดังกล่าวยังคงดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องว่า หากการก่อสร้างไม่ก่อให้เกิด ความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่ยึดและอายัดก็ย่อมสามารถดำเนินการต่อไปได้
ส่วนกรณีมีการปลดป้ายคำสั่งยึดและอายัดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำไปปิดไว้เข้าข่ายเป็นการถอน ทำให้เสียหาย ทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งตราหรือเครื่องหมาย อันเจ้าพนักงานได้ประทับหรือหมายไว้ที่สิ่งใดๆ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดหรืออายัด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 141 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสำนักงาน ปปง. จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป