จิราพร ชี้ ตำรวจเร่งสอบขยายผล ดาราเอี่ยวThe iCon รับต้องไปรื้อ กฎหมายล้าสมัย
จิราพร เผย ตำรวจเร่งสอบขยายผล ดารา The iCon Group ย้ำ เสียหายเกิน100ล้าน เข้าเกณฑ์ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เตรียมตั้งกรรมการสอบ สคบ.เรียกรับสินบน รับ ต้องกลับไปดูกฎหมายล้าสมัย เปิดช่องขายตรง สร้างความเสียหาย แจงปม สคบ.มอบโล่บริษัทดัง เรื่องช่วยโควิด
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบริษัท The iCon Group ธุรกิจออนไลน์และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพว่า มียอดของผู้มาร้องทุกข์ 504 ราย ความเสียหาย 118 ล้านบาท ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ร่วมสอบสวนด้วยสอบถามข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด เสาร์-อาทิตย์ไม่ได้หยุดทำงาน มีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์อย่างต่อเนื่อง
กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ได้เข้ามาร่วมทำคดีนี้อยู่แล้ว ร่วมกันตรวจสอบข้อมูล เมื่อมีผู้เสียหาย 300 คนขึ้นไป มูลค่าความเสียหายเกิน 100 ล้านบาท เข้าเกณฑ์ที่จะเป็นคดีพิเศษ แต่ขึ้นอยู่กับดีเอสไอ จะพิจารณาว่า จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ขณะนี้ดีเอสไอได้เข้ามาพูดคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตอนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการรับเรื่องร้องทุกข์และสอบสวนข้อเท็จจริง สำหรับผู้เสียหายต่างจังหวัด สามารถไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ได้เลยไม่ต้องเดินทางมาที่กรุงเทพฯหรือโทร 1599 ตลอดจนยื่นร้องทุกข์ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ถามว่า สคบ.ถูกพาดพิง เรื่องเทวดา สคบ.รับสินบน เรื่องนี้มีกรอบเวลาในการตรวจสอบหรือไม่ นางสาวจิราพร กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะอยากได้คนนอกเข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความโปร่งใส คาดว่าจะสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ได้ในวันอังคารที่ 14 ตุลาคมนี้
ส่วนกรณีที่ดารานักแสดงออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนกับการบริหารธุรกิจดิไอคอน และการโฆษณาก็เป็นการพูดตามสคริปต์ที่ทางบริษัทจัดให้เท่านั้น ส่งผลให้พ้นผิดได้หรือไม่ นางสาวจิราพร กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่จะชี้แจงกับประชาชน แต่ทุกคนก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบข้อหาที่ชัดเจนก็จะมีการขยายผล
เมื่อถามว่า สคบ.มีมาตรการตั้งรับอย่างไรเนื่องจากธุรกิจประเภทนี้มีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความจำนวนมาก นางสาวจิราพรกล่าวว่า ธุรกิจประเภทนี้มีความเสียหายมาแล้วในอดีต ซึ่งจะมีการอัพเกรดตามความเปลี่ยนแปลง หน่วยงานราชการเองก็ต้องมีการอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา สคบ. จะดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในระยะยาวก็จะต้องมาพูดคุยกันเพื่อทำงานอย่างบูรณาการ และต้องกลับไปดูกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องว่าล้าสมัยหรือไม่
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ สคบ.จะต้องทำงาน เชิงรุกมากขึ้นหรือไม่เนื่องจากธุรกิจขายตรงมีมากขึ้นป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายเกิดขึ้นอีก นางสาวจิรพรกล่าวว่า ได้หารือกับสคบ. ว่าเรามีทั้งพ.ร.บ.ขายตรง ตลาดแบบตรง และ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค ถ้ามีการอนุญาตธุรกิจประเภทนี้จะต้องมีการมอนิเตอร์อยู่ตลอด เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นลักษณะให้บริษัทเป็นผู้แจ้งงบการเงินเข้ามาทุกปี ไม่มีระบบเข้าไปตรวจในเชิงรุกจึงอยากเป็นประเด็นสำคัญที่อยากให้เข้าไปแก้ไขเพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อถามว่าการมอบโล่รางวัลของ สคบ. จะต้องมากขึ้นหรือไม่เพราะอาจจะเป็นการการันตีให้กับบริษัทขายตรงได้ นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า การมอบโล่รางวัลให้กับบริษัทดิไอคอนเมื่อปี 2563 เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้เข้ามามอบยาและหน้ากากอนามัยรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงโควิด-19 ซึ่งมีการสัมมนาของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร สคบ.ได้ส่งคนเข้าไปเป็นวิทยากรร่วม จึงมีการส่งชื่อบริษัทดังกล่าวเข้ามา รับรางวัลในฐานะผู้ทำสาธารณะประโยชน์ ไม่ใช่รางวัลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ สั่งการให้สคบ.กลับไปดูข้อเท็จจริง และตรวจสอบว่าทางบริษัทดังกล่าวได้นำรางวัลไปใช้ในทางผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น ไปทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าทางบริษัทประกอบธุรกิจได้ดีจึงได้รับรางวัล หากเข้าข่ายความผิดก็จะเรียกรางวัลคืน