"ทนายษิทรา"หลบสื่อระหว่างขึ้นศาลนครพนมคดีถูกฟ้องหมิ่นฯเรียก30ล้าน
"ทนายษิทรา"หลบสื่อขึ้นศาลนครพนม คดีศุภชัย โพธิ์สุ ผู้ช่วยมท.1ลูกสาวและเลขายื่นฟ้องคดีหมิ่นฯเรียกค่าเสียหาย30ล้าน
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2567 เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลจังหวัดนครพนม ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ พิจารณาคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา นัดสืบพยานจำเลย ระหว่างนายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กับพวกรวม3คนยื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และน.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ นักธุรกิจสาว เป็นจำเลยเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท
คำฟ้องสรุปพฤติการณ์กระทำความผิดจำเลยว่าแถลงข่าวที่มีเนื้อหาเป็นเท็จและสร้างความเสียหายให้แก่โจทก์ทั้ง3เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ะหว่างไต่สวนมูลฟ้องจำเลยได้ขอเจรราไกล่เกลี่ย แต่โจทก์ทั้งสามมีความต้องการที่จะปกป้องศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของตนเป็นสำคัญ ซึ่งศาลประทับรับฟ้องและนัดฟังคำสั่งเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567
มีรายงานว่าทนายษิทรา ได้เดินทางมาที่ จ.นครพนม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 67 ก่อนถึงเวลานัดเวลา 10.00น.ทนายตั้มได้นั่งรถยนต์กระบะ 4 ประตูเดินทางมาถึงศาลโดยหลบเข้าประตูข้างและขึ้นทางประตูด้านหลังศาล แต่ทันทีที่ทนายษิทราพบหน้าผู้สื่อข่าวได้กล่าวสั้นๆ ว่า “พวกคุณไปรอผมที่บันไดทางขึ้นหน้าศาล ผมเสร็จเที่ยง”
ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มเติมจากปากของทนายษิทรา กรณีพี่อ้อย น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีนีหมื่นล้าน แจ้งความดำเนินคดี กรณีแจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทธา คดีโกงเงินลงทุนธุรกิจหวยออนไลน์กว่า 71 ล้านบาท เพียงแต่เจ้าตัวโพสต์ข้อความล่าสุดผ่านเฟซบุ๊กว่า "ใครใครก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย เฮ้อ…ชีวิต"
แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทนายษิทราเดินทางไปฟังคำพิพากษาคดีหวย30ล้านบาทโดยได้ตอบคำถามสื่อมวลชนต่อประเด็นพี่อ้อย ว่า หนักใจกับกระแสสังคมพูดไปคงไม่มีใครเชื่อแต่มั่นใจในหลักฐาน
ยืนยันหนักแน่นว่า สิ่งที่พูดเป็นความจริงทุกคําไม่กล้าโกหกผ่านสื่ออยู่แล้ว เป็นทนายความ ทําอะไรทุกอย่างมีหลักฐานขอให้รอดูผลของเรื่องนี้ดีกว่าว่าจะเป็นยังไง