เผยมีแรงงานไทยเสียชีวิต 4 รายใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน
กระทรวงการต่างประเทศเผย มีพลเมืองไทยเสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บ 1 รายจากการยิงจรวดใกล้เมืองเมตูลา ใกล้ชายแดนระหว่างเลบานอนและอิสราเอล
เมื่อวันพฤหัสบดีวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงจรวดโจมตีเข้ามาในภาคเหนือของอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ในนิคมเกษตรกรรมใกล้กับเมืองเมตูลาและเมืองไฮฟา ซึ่งนับเป็นวันที่พลเรือนในอิสราเอลเสียชีวิตมากที่สุดในรอบหลายเดือน โดยเจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยว่า คนงาน 5 คนที่ทำงานในสวนแอปเปิลใกล้กับเมืองชายแดนเมตูลา เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นคนงานชาวไทย 4 คน
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศได้อัปเดตรายชื่อคนไทยที่เสียชีวิตทั้ง 4 คน ดังนี้
(1) นายอรรคพล วรรณไสย มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ. อุดรธานี
(2) นายประหยัด พิลาศรัมย์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ. บุรีรัมย์
(3) นายธนา ติจันทึก มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา
(4) นายกวีศักดิ์ ปาปะนัง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายฉัตรชัย ศิลป์ประเสริฐ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว มีคนไทย 46 คนอยู่ในหมู่ผู้เสียชีวิต 1,200 คนเมื่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนอิสราเอล ตามการระบุของกระทรวงการต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน มีคนไทย 30 คนถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 และเชื่อว่ามี 6 คนยังคงถูกกักขัง ตามการระบุของทางการไทย
นับตั้งแต่นั้นมา การตอบโต้ของอิสราเอลต่อการโจมตีดังกล่าวได้ทำลายล้างฉนวนกาซาในดินแดนปาเลสไตน์ และคร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นคน อิสราเอลยังได้เปิดการโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเลบานอนด้วย
ก่อนเกิดความขัดแย้ง คนไทยประมาณ 30,000 คนทำงานในอิสราเอล ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งถือเป็นกลุ่มแรงงานอพยพที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งในอิสราเอล
“ประเทศไทยยังคงเรียกร้องอย่างแข็งขันต่อทุกฝ่ายให้กลับไปสู่เส้นทางแห่งสันติภาพ ในนามของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและลึกซึ้งนี้” มาริส เสงี่ยมพงศา รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกล่าว