ตำรวจเล็งออกหมายเรียกทนายตั้มคดีฉ้อโกงเงินพี่อ้อย71ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง เล็งออกหมายเรียก"ทนายตั้ม"ชี้แจงปมฉ้อโกงเงินพี่อ้อย 71ล้านบาท พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน แจงผลการสอบปากคำเจ้าทุกข์ยืนยัน ไม่ได้ให้โดยเสน่หาตามที่ทนายคนดังอีกฝ่ายกล่าวอ้าง
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานคดีพี่้อ้อย กล่าวหาทนายคนดังฉ้อโกงเงิน 71ล้านบาท ว่า ผลการสอบคำให้การน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย เมื่อวันที่31ต.ค.67 กล่าวหาทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71ล้านบาท เจ้าทุกข์ยืนยันว่า ไม่ได้ให้โดยเสน่หาและจนถึงตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนออกหมายจับ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและพิจารณาข้อหาเพิ่ม ในคดีฉ้อโกงประชาชนถ้าหากพยานหลักฐานเพียงพอว่ามีการกระทำความผิดจริงจะเป็นการออกหมายเรียกแทน ส่วนกรอบระยะเวลายังไม่สามารถที่จะตอบได้ และจะเป็นความผิดในเรื่องอื่นหรือไม่ทุกอย่างจะต้องทำด้วยความรอบคอบจึงอยากจะขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานสอบสวนก่อน
"คดีนี้มีพยานหลักฐานที่ค่อนข้างเยอะก็ไม่รู้ว่าจะมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หรือพยานหลักฐานจะจบไว้ที่เพียงเท่านี้ จึงอยากขอเวลาทำงานในวันนี้พนักงานสืบสวนก็ยังคงทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆกันต่อ"
นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความพี่อ้อย ยืนยันว่าเงินจำนวน 71 ล้านบาท พี่อ้อยลูกความไม่ได้ให้ไปโดยเสน่หา หลักฐานทุกอย่างและได้มอบให้พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว เบื้องต้นจะแจ้งความเอาผิดทนายความข้อหาลักทรัพย์ก่อน
ส่วนกรณีที่ทนายคู่ความยืนยันว่าพี่อ้อยให้เงินมาด้วยเสน่หาก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่เขาจะชี้แจง แต่มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ และถึงแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นนักกฎหมาย ก็ไม่ทำให้หนักใจเพราะเชื่อว่าเป็นนักกฎหมายก็สามารถที่จะทำผิดได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากตัวเองทำผิดก็จะออกมายอมรับผิดแบบลูกผู้ชาย