posttoday

DSI บุกเรือนจำ แจ้งข้อหาขายตรง-แชร์ลูกโซ่เพิ่ม 18 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป

11 พฤศจิกายน 2567

DSI เข้าเรือนจำแจ้งข้อกล่าวหาบริษัทและ 18 บอส ดิไอคอนเพิ่ม ฐานร่วมกันทำผิด 3 ข้อหา กฎหมายขายตรง-แชร์ลูกโซ่ ไม่ขัดข้องหากนำหลักฐานมาแจงความบริสุทธิ์

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมอยู่ทั้ง 18 คน และในฐานะผู้แทนนิติบุคคลอีก 1 ราย  ในความผิดฐาน

(1) “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

(2) “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น”

 และ (3) “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เนื่องจากภายหลังที่รับสำนวนการสอบสวนมาดำเนินการแล้ว มีการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยพบพยานหลักฐานที่เข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายดังกล่าวและเห็นว่าพฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมดมีการร่วมกันกระทำการในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ประกอบด้วยทีมบริหาร แม่ทีมบรรยายชักชวนร่วมลงทุน และทีมผู้มีชื่อเสียงที่สร้างตัวตนให้เห็นถึงความร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวกับผู้ต้องหาทั้งหมด

DSI บุกเรือนจำ แจ้งข้อหาขายตรง-แชร์ลูกโซ่เพิ่ม 18 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป

 

หลังจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะให้โอกาสผู้ต้องหาทั้ง 19 คน (รวมนิติบุคคล) นำพยาน หลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย หากประสงค์ยื่นคำให้การเป็นเอกสารหรือยื่นพยานหลักฐานประกอบการแก้ข้อกล่าวหาให้รวบรวมหลักฐานให้แล้วเสร็จเสนอมายังคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษภายใน 15 วัน นับแต่รับทราบข้อกล่าวหาเพื่อพิจารณาต่อไป

 

โดยก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 70/2567 ของกองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กรณีดำเนินคดีอาญากับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก รวม 19 ราย ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” มาทำการสืบสวนและสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เป็นคดีพิเศษที่ 119/2567 และมีผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย เป็นนิติบุคคล 1 ราย คือบริษัทอิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารบริษัทฯ อีก 18 คน ถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง