posttoday

มติปปง.อายัดทรัพย์ทนายตั้ม ดิไอคอนกรุ๊ป ชดใช้ผู้เสียหายหุ้นSTARK

17 ธันวาคม 2567

มติปปง.ยึดอายัดทรัพย์สินทนายตั้มคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท คดีดิไอคอนกรุ๊ปให้อัยการยื่นขอให้ทรัพย์ 286 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน นำทรัพย์สิน 3,244 ล้านบาทชดใช้ผู้เสียหายคดีหุ้นSTARK

KEY

POINTS

  • ปปง.สั่งยึดอายัดทรัพย์ ทนายตั้ม เป็นที่ดิน บ้าน เงินในบัญชี รวม 71 ล้านบาท
  • ให้อัยการยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินดิไอคอนกรุ๊ป286 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน
  • ให้นำทรัพย์สินมูลค่า3,244 ล้านบาท ชดใช้คืนผู้เสียหาย หุ้น STARK
     

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 15/2567 ซึ่งได้พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด

ในรายคดี ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระและความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีเหตุที่อันควรเชื่อได้ว่ามีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
 

คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจำนวน 3 รายการ เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท

ส่วนคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก มีมติให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ตามคำสั่งที่ ย.214/2567, ย.222/2567, ย.223/2567, ย.224/2567 และ ย.225/2567 รวมจำนวน 103 รายการ มูลค่าประมาณ 286 ล้านบาท และมีมติให้เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สินจำนวน 40 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 29 ล้านบาท เนื่องจากผู้มีส่วนได้เสียสามารถแสดงหลักฐานว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกดำเนินการไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
 

นอกจากนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหายกว่า 3,900 ราย) 
ในรายคดีสำคัญคือ นายชนินทร์ ชนินทร์ เย็นสุดใจกับพวก (กรณีหุ้น STARK) ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับ การฉ้อโกงประชาชน และการยักยอกฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระซึ่งเป็นการดำเนินการกับทรัพย์สิน จำนวน 50 รายการ (เช่น ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 3,244 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 222/2566 และ ย. 32/67)

ทั้งนี้ ในส่วนของการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย สำนักงาน ปปง. ประกาศกำหนดให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ครบกำหนดวันที่17 กุมภาพันธ์ 2568) จากนั้นสำนักงาน ปปง. จะตรวจสอบและรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายและจำนวนความเสียหาย เพื่อพิจารณาก่อนส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอต่อศาลแพ่งให้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายตามสัดส่วนความเสียหายแทนการสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

อย่างไรก็ตาม การส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดำเนินการกับทรัพย์สินในคดีนี้ 

ทั้งนี้ หากสำนักงาน ปปง. มีการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีนี้เพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป