CIB ลงดาบเชือดแพลตฟอร์มซื้อขาย "สินทรัพย์ดิจิทัล CoinEx"
ตำรวจสอบสวนกลาง ลงดาบเชือดแพลตฟอร์มซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัล CoinEx "พาร์ทเนอร์ พุฒิพงศ์" โดนข้อหาหนัก "ร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต"
สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินคดีผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ได้แก่
1.แพลตฟอร์มผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ CoinEx
2.นายพุฒิพงศ์ สงวนนามสกุล
ซึ่งได้ร่วมกันกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พุทธศักราช 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ได้รับเป็นคดีอาญา และได้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานแห่งการกระทำความผิดมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2565 สำนักงาน ก.ล.ต. และตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่า พบข้อมูลผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ CoinEx ได้ให้บริการจัดระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเก็บค่าธรรมเนียม และมีการชักชวนและประชาสัมพันธ์ให้มาใช้บริการของ CoinEx ในประเทศไทย ผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นภาษาไทย
โดยนายพุฒิพงศ์ ได้แสดงตนว่าเป็น Partner of CoinEx Thailand โดยเป็นผู้ดูแลบูธ CoinEx ในงาน Thailand Crypto Expo 2022 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และขึ้นบรรยายบนเวทีเพื่อชักชวนประชาชนมาใช้บริการของ CoinEx
นอกจากนี้ นายพุฒิพงศ์ฯ ยังเป็นผู้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (email) ในฐานะ Partner of CoinEx Thailand เพื่อสอบถาม ก.ล.ต. เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับ CoinEx รวมทั้งนายพุฒิพงศ์ฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลห้องสนทนาใน Telegram ชื่อ “CoinEx Official Thailand เพื่อทําให้การซื้อขาย Crypto ง่ายขึ้น
โดยมีการส่งข้อความในลักษณะประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการขายอันทำให้ CoinEx เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากบุคคลไปใช้บริการมากขึ้นซึ่งนายพุฒิพงศ์ฯ ได้รับค่าตอบแทนจากการกระทำข้างต้น เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง
ต่อมาสำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และดำเนินการติดตามตัวนาย พุฒิพงศ์ฯ ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยแจ้งว่าตนเองเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม Telegram และได้รับค่าจ้างจากการช่วยโฆษณาส่งเสริมการขายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลจากผู้ให้บริการ CoinEx เข้าสู่บัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองจริง