กรมอุตุฯเตือนฉบับ7 ใต้6จังหวัดฝนตกหนัก อ่าวไทย อันดามันคลื่นแรง
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 (19/2568) 6จังหวัดภาคใต้ฝนตกหนัก ให้ประชาชนระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก อ่าวไทย-อันดามันคลื่นลมแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ไปจนถึง18 มกราคม 2568 |
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน
(มีผลกระทบจนถึงวันที่ 18 มกราคม 2568)
ฉบับที่ 7 (19/2568)
ในช่วงวันที่ 17-18 มกราคม 2568 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 17 มกราคม 2568
ภาคใต้: จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
วันที่ 18 มกราคม 2568
ภาคใต้: จังหวัดยะลา และนราธิวาส
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 18 มกราคม 68
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
- ภาคเหนือ
ตอนบนของภาค : อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า
ตอนล่างของภาค : อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1–2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 9-17 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
- ภาคกลาง
อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
- ภาคตะวันออก
อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.