DSI รับ "คดีตึกสตง.ถล่ม" เป็นคดีพิเศษ ฐาน นอมินี-มอก.-ฮั้วประมูล
อธิบดี DSI เผย รับคดีตึกสตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ 3 ฐานความผิด นอมินี ขยายผลเรื่อง มอก. และฮั้วประมูล ชี้ มีเหตุจำเป็นให้สอบสวน
พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
กรณี อาคารสำนักงานอาคารตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ความสูง 30 ชั้น มูลค่างานก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท ที่กำลังก่อสร้างถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหว เป็นคดีพิเศษ ณ บริเวณหน้าห้องประชุม 1 ชั้น 1 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ
พันตำรวจตรี ยุทธนาฯ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเมื่อวานนี้ที่มีการประชุมมอบหมายภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างถล่ม
ขณะนี้ได้ข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะรับคดีพิเศษ ในประเด็นเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542
เนื่องจากพบข้อเท็จจริงว่ากรรมการของนิติบุคคลของบริษัท china railway number 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีการจดทะเบียนเป็นกิจการร่วมค้าฯ กับนิติบุคคลของประเทศไทย ในนามกิจการร่วมค้า itd-crec และเข้าเป็นคู่สัญญาในการก่อสร้างนั้น มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้น ร้อยละ 51
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าบุคคลสัญชาติไทยดังกล่าวจำนวน 3 คน มีการเข้าไปเป็นกรรมการและถือหุ้นในบริษัทอื่น ๆ ร้อยละ 51 ร่วมกับนิติบุคคลต่างชาติอีกเป็นจำนวนมาก ไม่สอดคล้องกับสถานะทางเศรษฐกิจของแต่ละคน จึงมีเหตุที่จำเป็นต้องทำการสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เป็นกรณีถือหุ้นหรือทุนแทนนิติบุคคลต่างชาติ
ซึ่งจะทำให้นิติบุคคลดังกล่าวมีฐานะเป็นคนต่างด้าว ตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว มีบทบัญญัติห้ามดำเนินธุรกิจการก่อสร้าง รวมทั้งขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ว่าเข้าข่ายความผิดทำให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม และมีการนำวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมาใช้ในการดำเนินการหรือไม่ต่อไป
ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะมีการประชุมกำหนดแนวทางและประเด็นการสอบสวนโดยด่วนต่อไป”