“ชัชชาติ” ปรับแผนร่วมทีมกู้ภัยแคนาดา กู้ผู้ติดซากตึก สตง.ถล่ม
“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เตรียมปรับแผนร่วมทีมกู้ภัยจากแคนาดา กู้ผู้ติดใต้ซากตึก สตง.ถล่ม แจงยอดผู้เสียชีวิตรอพิสูจน์หลักฐานยืนยันอีกครั้ง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหว ว่า การทำงานเป็นไปตามยุทธวิธี คือ เรานำเครื่องจักรกลหนักเข้าเปิดทาง จุดที่เราคาดว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มบริเวณโซน C
ทั้งนี้ ปัญหาหลัก คือ การเอาเนินด้านบนลง เนื่องจากมีความไม่ปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งการเอาเนินลงต้องทำทางเข้าไป เมื่อคืนจึงมีการตัดอาคารด้านหน้าออก เพื่อเปิดทางให้นำรถขนาดใหญ่ที่สามารถเอื้อมได้ถึงเข้าไปจัดการกองเนินด้านบนดังกล่าว ปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้ว จากนั้นจะมีรถเข้ามา 2 ทาง คือ ทางด้านหน้าและด้านข้าง ซึ่งด้านข้างเองมีการเจาะออกทางด้านหลัง ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
นายชัชชาติ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ซึ่งตอนนี้นำออกมาแล้วทั้ง 2 ราย สถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้น เราเริ่มเอาจุดที่มีความไม่มั่นคงออก เครื่องมือหนักเริ่มเข้าพื้นที่ได้มากขึ้น น่าจะพบผู้ติดอยู่ข้างใน แต่โอกาสผู้รอดชีวิตคงน้อยลงและพบผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
โดยตอนนี้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนจากการวิ่งสปรินท์เป็นวิ่งมาราธอน คือ การกู้ชีพเปรียบเหมือนการวิ่งแข่ง 100 เมตร แต่ตอนนี้เชื่อว่าเป็นเกมยาวรักษาความต่อเนื่อง จัดทีมงานให้เหมาะสม ต้องดูแลผู้ทำงานให้อยู่ทำงานกับเราได้ระยะยาว การบริหารจัดการพื้นที่ด้านในดีขึ้น
ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน อาทิ จิตอาสาพระราชทาน สำหรับทีมกู้ภัยจากแคนาดาที่เดินทางมาถึงเมื่อวานเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว คาดว่าจะเข้าไปยังประเทศเมียนมา แต่ไม่สามารถเข้าได้จึงแวะมายังประเทศไทย คิดว่ามี K9 มาด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน จากนี้คงต้องดูว่าจะปรับแผนทำงานอย่างไรให้เข้ากัน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้น โดยหน้าที่ของ กทม. คือ ดูแลอุบัติภัย เรื่องการตรวจสอบอาคาร สตง. เป็นหน้าที่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการลงมา เป็นการดำเนินงานคนละส่วนกัน
กทม. มีหน้าที่ให้ความร่วมมือเมื่อมีคณะทำงานเข้ามาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ขณะที่เรื่องการค้นหาผู้รอดชีวิต หลังจากผ่านมา 10 วัน ก็ยังเหมือนเดิม คือ ยังมีความหวัง เรามีทีมกู้ชีพอยู่ประจำจุด หากมีช่องหรือโพรงใหญ่เราก็จะส่งทีมกู้ภัย และ K9 เข้าไปสำรวจก่อนว่ามีสัญญาณชีพหรือไม่
เราทำงานควบคู่กันไปทั้งให้เครื่องจักรหนักทำงาน 5-6 ชั่วโมง หากถึงจุดที่มีโพรงให้เครื่องจักรพักแล้วกู้ภัยเข้าสำรวจ สำหรับปัญหาของเครื่องจักร เป็นธรรมดาที่ทำงานต่อเนื่องจะมีความเสียหายต่างๆ ซึ่งเราได้คาดการณ์ไว้แล้วก็ได้สั่งให้จัดเตรียมอุปกรณ์ซ่อมแซมบำรุงไว้หน้างาน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มเห็นโพรงที่จะมีการเชื่อมโยงกันระหว่างโซน B กับ โซน C ซึ่งโซน B กับ C จะเป็นจุดเข้า-ออก ของคนงาน เพราะคนงานจะเข้าออกตึกหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน และจะมีบันไดที่เชื่อมเพื่อให้คนงานเข้าออกทั้งเช้า เที่ยง เย็น เราจึงคาดการณ์ว่าจะมีโพรงอยู่ด้านล่าง ซึ่งร่างที่เราพบ 2 ราย เมื่อคืนก็อยู่บริเวณนี้ เข้าใจว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการหนีออกไปทางสำนักงาน และตอนนี้เรามีโปรแกรมที่ใช้ระบุว่าคนที่เจอมาจากชั้นไหน บริษัทอะไร ทำให้เราเข้าใจการหนีของคนได้ละเอียดขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็ได้มาจากทีมกู้ภัยนานาชาติ
สำหรับจำนวนร่างผู้ที่ติดอยู่ตอนนี้ต้องรอระบุอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจย้ำว่าหากจะนับขอให้นำออกมาครบทั้งร่างกายก่อน ต้องชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำกัน ทั้งนี้ ยอดตัวเลขรอให้ทางพิสูจน์หลักฐานยืนยันอีกครั้ง