‘ทักษิณ’ ติดโผ 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย 2567 ของ Forbes
ผลการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลก 2567 ของ Forbes พบ '10 อันดับมหาเศรษฐีไทยปีนี้แทบไม่เปลี่ยนแปลง มีเพียง ‘ทักษิณ ชินวัตร’และ ‘ฮาราลด์ ลิงค์’ ที่ติดโผใหม่
เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เปิดเผยการจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2567 พบว่ามหาเศรษฐีไทยที่ติดการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกของฟอร์บส์ในปี 2567 นี้ มีจำนวนทั้งหมด 26 คน โดยมีนายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ อดีตประธานกรรมการแห่ง ทีโอเอ เพ้นท์ (TOA) อยู่ในลำดับสุดท้ายของไทยที่อันดับ 26 และเป็นอันดับ 2545 ของโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปีนี้ 10 อันดับมหาเศรษฐีของไทยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน
สำหรับ 10 อันดับมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2567 มีดังนี้
อันดับ 1 - นายธนินท์ เจียรวนนท์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 12,500 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 2 - นายเจริญ สิริวัฒนภักดี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 11,300 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ 3 - นายสารัชถ์ รัตนาวะดี
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 10,700 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: พลังงาน
อันดับ 4 - นายสุเมธ เจียรวนนท์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5,500 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 5 - นายจรัญ เจียรวนนท์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5,400 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 6 - นายวานิช ไชยวรรณ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3,800 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: การเงินและการลงทุน
อันดับ 7 - นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3,700 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: เฮลท์แคร์
อันดับ 8 - นางสมอุไร จารุพนิช
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3,100 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 9 - นายประยุทธ มหากิจศิริ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2,200 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ 10 (ร่วม) - นายฮาราลด์ ลิงค์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2,100 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 10 (ร่วม) - นายทักษิณ ชินวัตร
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2,100 ล้านดอลลาร์
ประเภทธุรกิจ: การเงินและการลงทุน
ซึ่ง 10 อันดับมหาเศรษฐีไทยที่มั่งคั่งที่สุดในปีนี้ มีเพียงนายสมโภชน์ อาหุนัย จากบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือEA ที่หลุดออกจากโผ และมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่เข้ามา 2 คนแทนในอันดับ 10 ร่วม คือนาย "ฮาราลด์ ลิงค์" จากบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ และนาย "ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งฟอร์บส์ระบุถึงประเภทธุรกิจเอาไว้ว่าอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินและการลงทุน โดยทั้งคู่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,100 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.7 หมื่นล้านบาท)