"คีลิยัน เอ็มบัปเป้" กับเส้นทางนักฟุตบอลที่เก่งและรวยสุดในโลก

การย้ายทีมจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแม็งไปอยู่กับเรอัล มาดริด ของคีลิยัน เอ็มบัปเป้ เป็นดีลใหญ่สุดของตลาดซื้อขายนักฟุตบอลในซัมเมอร์ 2024 เพราะนี่คือนักเตะที่เพอร์เฟ็คต์และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกฟุตบอล

เอ็มบัปเป้ พิสูจน์มาหมดแล้วจากการพาทีมชาติฝรั่งเศสได้แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 รวมถึงเป็นนักเตะยอดเยี่ยมจากลีก เอิง ฝรั่งเศสที่เขาพา "เปแอสเช" ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ได้แชมป์แบบผูกขาดทุกปี

เมื่อลีกฝรั่งเศสเล็กเกินไป และความสำเร็จที่จับต้องได้อย่างแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงรางวัลบัลลงดอร์ ทีมเรอัล มาดริด คือคำตอบ

ทั้งนี้สโมสรเรอัล มาดริด คือสโมสรในฝันของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เขามีคริสเตียโน่ โรนัลโด้เป็น "ไอดอล"  ซึ่งเรอัล มาดริด ทราบถึงจุดนี้ดี และเคยเชิญ "เอ็มบัปเป้" วัย 14 ปี (ตอนนั้น) มาทัวร์สโมสร และให้โรนัลโด้ ไอดอลของเขามาต้อนรับ เพื่อดึงดูดจูงใจ "เอ็มบัปเป้"ให้ย้ายมาร่วมทีม

แต่จะมีใครเชื่อว่า "เอ็มบัปเป้" กว่าจะได้มาลงเอยกับเรอัล มาดริดในปี 2024 เขาเคยปฏิเสธทีมราชันชุดขาวมาแล้ว 3 ครั้ง !

โดยเฉพาะเมื่อปี 2021 ที่เคยเคยรับปากแบบปากเปล่ากับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานของมาดริดว่าจะย้ายมาร่วมทีม ทว่ากลับลำไม่มา จนสื่อในสเปนโดยเฉพาะ "มาร์ก้า" ของมาดริด ตีข่าวโจมตีเอ็มบัปเป้แบบไม่เหลือชิ้นดี

สุดท้าย "เอ็มบัปเป้" กับเรอัล มาดริด ก็หาจนเจอในปี 2024 เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เจ้าตัวประกาศชัดว่าจะไม่ต่อสัญญากับ "เปแอสเช" แม้จะไม่บอกว่าจะย้ายไปทีมไหน แต่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเรอัล มาดริดคือจุดหมายปลายทาง

ซึ่งเว็บไซต์ของสโมสร เรอัล มาดริดได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาได้ตัว คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มาร่วมทีมแน่นอนแล้วด้วยสัญญา 5 ปี 

ความฮอตฮิต ของเอ็มบัปเป้ มากถึงขนาดที่แฟนเรอัล มาดริด ทั่วโลก พากันกดข่าวเข้าไปดูเว็บไซต์ จนเว็บของสโมสรล่มเลยทีเดียว (บางส่วนแซวว่ากลัวจะไม่มาอีก)

"เอ็มบัปเป้" ลดค่าเหนื่อยกว่า 75 % 

ส่วนค่าเหนื่อย เอ็มบัปเป้ รับกับเรอัล มาดริด จะอยู่ที่ 250,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 11.50 ล้านบาท) ตัวเลขนี้ หากเทียบกับค่าเหนื่อยเดิมที่เขารับกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง นั้นคนละเรื่องเลย

เพราะของเดิมเอ็มบัปเป้รับที่ 1.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 50.6 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ หรือพูดให้เห็นภาพเจ้าตัวลดค่าเหนื่อยลงกว่า 75 % จากที่เคยรับ

ยิ่งหากเอาไปเทียบกับเหล่าตัวท็อปของพรีเมียร์ลีกแล้ว ค่าเหนื่อยเอ็มบัปเป้ ไม่ติด 1 ใน 10 ด้วยซ้ำ 
 

ค่าเหนื่อย 10 อันดับแรกนักฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 

1. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้)        400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

2. เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนฯ ซิตี้)         375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

3. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)         350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

4. กาเซมีโร่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)             350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

5. ราฮีม สเตอร์ลิง (เชลซี)             325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

6. โรเมลู ลูกากู (โรม่า ยืมจาก เชลซี)     325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

7. มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)     300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

8. แบร์นาโด ซิลวา (แมนฯ ซิตี้)         300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

9. แจ็ค กรีลิช (แมนฯ ซิตี้)             300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

10. ไค ฮาแวร์ตซ์ (อาร์เซน่อล)             280,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

*** คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (เรอัล มาดริด)        250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

Passive Income ที่ "เอ็มบัปเป้ได้รับแบบไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อย

แต่สิ่งที่ เอ็มบัปเป้ จะได้จากการเซ็นสัญญาครั้งนี้คือ ค่าเซ็นสัญญามาร่วมทีมเรอัล มาดริด BBC รายงานว่า กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสคนนี้จะได้เงินกินเปล่าถึง 128 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,888 ล้านบาท) ซึ่งเงินส่วนนี้จะมีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ไม่ได้จ่ายทีเดียวทั้งหมด

รวมถึงเงินที่เอ็มบัปเป้จะได้รับทุกวัน จากส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์อีกจำนวนหนึ่ง ตัวนี้ ‘เลกิ๊ป’ สื่อของฝรั่งเศส รายงานตัวเลขส่วนแบ่งที่ 70-30% (เอ็มบัปเป้ รับไป 70 % ส่วนที่เหลือ 30 % เรอัล มาดริด) ซึ่งเป็นนักเตะคนแรกทีได้มากขนาดนี้ เพราะตอนคริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้เพียง 50% เท่านั้น

สินค้าของเรอัล มาดริด ตีตลาดขาดได้ทั่วโลกอยู่แล้วและขายได้ทุกวันไม่มีวันหยุดราชการ จากการเปิดเผยของนิตยสารการเงินชื่อดังอย่าง Forbes ยิ่งย้ำชัดว่า "เอ็มบัปเป้" จะได้สัปดาห์เกิน 1 ล้านปอนด์แน่ๆ เพราะเวลานี้ เรอัล มาดริด สโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

Forbes เผยว่าเรอัล มาดริด ที่มีมูลค่ามากกว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.4 แสนล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมจากกลุ่มแฟนบอล และมูลค่าหุ้นในตลาดของทีมราชันชุดขาว

เปิดใจครั้งแรกถึงการย้ายไปเรอัล มาดริด

ด้านเอ็มบัปเป้ที่เวลานี้ ซ้อมกับทีมชาติฝรั่งเศสเพื่อลงเล่นในยูร 2024 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนครั้งแรกในฐานะกัปตันทีม และพูดถึงการย้ายไปเรอัล มาดริดว่า  

"มันเป็นทางการแล้ว ผมจะเป็นผู้เล่นของเรอัล มาดริด 5 ฤดูกาลเป็นอย่างน้อย เป็นความดีใจอย่างยิ่ง มันคือความฝันที่เป็นจริง ผมดีใจมาก ๆ, ปลดปล่อย และโล่งอก ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มาอยู่กับสโมสรที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด ขอบคุณอย่างมาก แน่นอนที่ผมมีความตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงการไปอยู่ในสโมสรที่ยิ่งใหญ่นี้ สโมสรที่ดีที่สุดในโลก ผมไปที่นั่นด้วยความถ่อมตนอย่างมาก“