เปิดค่ายนายห้าง 'ประจักษ์ชัย' "ไหทองคำ เอนเตอร์เทนเมนท์" 10 ปีอินดี้อีสาน
ส่องค่ายเพลง 'ไหทองคำ เรคคอร์ด' ของนายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ ต้นสังกัด/ผู้ปลุกปั้น 'ลำไย ไหทองคำ' จนโด่งดังมีชื่อเสียงจากเพลง 'ผู้สาวขาเลาะ' เมื่อเกือบสิบปีก่อนมียอดวิวถล่มทลาย สร้างรายได้หลายสิบล้านต่อปีจากงานโชว์ จนสามารถเปิดอาณาจักร “ไหทองคำเอนเตอร์เทนเมนท์”
ค่ายเพลง "ไหทองคำ" เป็นค่ายเพลงที่เน้นแนวเพลงลูกทุ่งและหมอลำสร้างชื่อจากสไตล์ อินดี้อีสาน มีการสร้างสรรค์เพลงที่เข้าถึงกลุ่มคนรักเพลงลูกทุ่งโดยเฉพาะ ค่ายนี้โดดเด่นจากการสร้างศิลปินที่มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลำไย ไหทองคำ ที่ถือเป็นศิลปินหลักของค่าย และเป็นที่รู้จักในวงกว้างในประเทศไทย
ศิลปินที่โด่งดังจากค่ายไหทองคำ อาทิ ลำไย ไหทองคำ – นักร้องชื่อดังที่มีเพลงฮิตหลายเพลง เช่น "ผู้สาวขาเลาะ," "กะเทยเร่ร่อน," และ "บ่มีที่ไป" หลิว อาจารียา – นักร้องที่มีเพลงยอดฮิตและเป็นที่รู้จักในวงการลูกทุ่ง
ค่าย "ไหทองคำ" หรือ “ไหทองคำ เรคคอร์ด” เป็นค่ายเพลงที่เติบโตและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน จากการลงทุนในการสร้างเพลงและการโปรโมตศิลปินที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในแวดวงที่เรียกว่า “อินดี้อีสาน” จับตลาดวัยรุ่นสายภูธรและวัยรุ่นเมืองในเวลาต่อมาได้อย่างไม่เคอะเขิน จนทำให้สร้างรายได้มหาศาลจากการขายเพลงและการแสดงสด รวมทั้งการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การขายสินค้าและการจัดงานคอนเสิร์ตต่างๆ การสร้างรายได้ของค่ายนี้อาจมีมูลค่าหลายสิบล้านบาทต่อปีจากการทำธุรกิจเหล่านี้
ย้อนที่มา “ไหทองคำเอนเตอร์เทนเมนท์” สู่ผลิตภัณฑ์ “ไหโกลด์ (Hai Gold)”
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2566 ประจักษ์ชัย ไหทองคำ ได้เปิดโปรเจ็กต์น่าตื่นเต้นให้กับวงการเพลงอินดี้อีสานต่อเนื่อง ด้วยการเปิดไหทองคำสตูดิโอ ในวาระครบรอบ 9 ปีค่ายด้วยการทุ่มงบ 30 ล้านขยายฐานการผลิตศิลปิน สตูดิโอ ห้องตัดต่อ ห้องซ้อมดนตรี ห้องซ้อมแดนซ์เซอร์
และยังจัดงานแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างยิ่งใหญ่ ให้กับอาณาจักรออฟฟิศสตูดิโอแห่งใหม่ “ไหทองคำเอนเตอร์เทนเมนท์” พร้อมเปิดตัวแบรนด์สินค้า 4 ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ไหโกลด์ (Hai Gold) ที่ The Studio7 ลำลูกกา ปทุมธานี โดยมีศิลปินตัวหลักในสังกัดอย่าง ลำไย ไหทองคำ, ยูกิ ไหทองคำ, ฟอส สิทธิชัย, โชค โชคมงคล, นุชนันท์ วรรวิรา ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์
โดยประจักษ์เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า
“เราเปิดสตูดิโอ ตั้งงบไว้ 30 ล้านเฉพาะอาคาร ต่อเติมเพิ่มไปอีกรวมเป็น 50 ล้าน ส่วนแบรนด์ที่ทำไปแล้ว 28 ล้าน มียอดจองเข้ามาต้นทุน 10 กว่าล้าน เราตั้งเป้าไว้อยากทำยอดทะลุ 1000 ล้านพอครับ เพราะว่าพรีเซ็นเตอร์แต่ละคนเป็นตัวแมสอย่าง น้องลำไย ยูกิ โชค และน้องฟอส ถือว่ากำลังมีกระแสร้อนแรงอยู่แล้ว เราคิดว่าอยากจะต่อยอดจากการทำเพลง ศิลปินในค่ายของเราแต่ละคนวิ่งงานกันคนละ 3-4 งาน มีเวลามาพรีเซ็นต์ผลิตภัณฑ์ ก็ขอให้เฮงกับชื่อปีปีที่ 9 ของไหทองคำ ก้าวไปด้วยกัน ก้าวไปอย่างมั่นคง รวยๆ เฮงๆ ครับ”
เส้นทาง “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” นายห้างดัง ผู้อยู่เบื้องหลัง "ลำไย ไหทองคำ"
"ประจักษ์ชัย ไหทองคำ" หรือ ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ (ชื่อเดิมประจักษ์ เนาวรัตน์) เป็นชาวอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์ หลังจากเรียนจบ ประจักษ์ชัย ได้ทำงานฝ่ายกฎหมายกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ก่อนออกมาเดินทางตามความฝัน ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟและร้องเพลงในร้านอาหาร ด้วยใจรักในการร้องเพลง แต่งเพลงและเล่นดนตรี เคยเป็นก็อปปี้โชว์ เคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ก่อนจะเดินสายในวงการเพลงลูกทุ่ง และได้เป็นนายห้างชื่อดังแห่งค่าย "ไหทองคำ" ผู้ปลุกปั้นลำไย ไหทองคำ
ประจักษ์ชัยเคยรับจ้างแต่งเพลงให้กับพรรคการเมืองต่างๆ เพลงละ1,000-3,000 พันบาท แม้การร้องเพลงในร้านอาหารจะมีรายได้ที่ไม่แน่นอนมั่นคง แต่เขาก็อยากทำเพราะมันคือสิ่งที่เขารัก และได้สั่งสมประสบการณ์ ได้เจอศิลปิน นักแต่งเพลง และครูเพลง ทำให้เขาได้รู้เทคนิคและการปูทางสู่การเข้าวงการในเวลาต่อมา
แต่เมื่อการเป็นนักร้องในร้านอาหารมีรายได้ที่ไม่แน่นอน เขาจึงได้กลับบ้านไปเล่นการเมืองท้องถิ่น และได้เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร (อบจ.) อยู่ 1 สมัย และสมัยต่อมาสอบตก ทำให้เขากลับมาทำงานด้านดนตรีต่อ ซึ่งในขณะนั้นก็มีคนมาชวนให้เขาไปเป็นก็อปปี้โชว์ เพราะมีหน้าตาคล้ายกับตลกชื่อดัง เท่ง เถิดเทิงโดยให้ใช้ชื่อว่า เท่ง เปิดเปิง
ระหว่างนั้นเจ้าตัวก็ได้เร่มแต่งเพลงให้ลำยอง หนองหินห่าว และ เมรี หนองฮีใหญ่ ก่อนที่จะมาเจอกับลำไย ไหทองคำ ในขณะที่ ประจักษ์ชัย ยังทำงานก็อปปี้โชว์ โดยทั้งสองคนมาเจอกันในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ขณะที่ลำไย ได้มาร้องเพลงในงานเดียวกัน จากนั้นได้มีการติดต่อและได้ชักชวนลำไยมาร่วมงาน
ชื่อเสียงของ ประจักษ์ชัย เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ปล่อยเพลง ผู้สาวขาเลาะ โดยอาม ชุติมาเป็นผู้แต่ง และ ลำไย เป็นผู้ถ่ายทอด จนถึงปัจจุบันมียอดวิวพุ่งไปถึง 400 ล้านวิวแล้ว ซึ่งหลังจากเพลงดังกล่าวเกิดดังเปรี้ยงขึ้นมา ก็ทำให้เกิดมีดราม่า ไหแตก เกิดขึ้น
เมื่อผู้แต่งเพลงนี้ อาม ชุติมา มองว่าเงินที่ได้จากการแต่งเพลงนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับเธอ จึงได้เกิดการฟ้องร้องกันขึ้น แต่สุดท้ายแล้วเรื่องราวดังกล่าวก็จบลงด้วยดี โดยอาม ชุติมาขอยกเลิกสัญญาและขอแยกไปรับงานเอง
ถึงตอนนี้ ค่ายไหทองคำ จึงเป็นอีกหนึ่งค่ายหนึ่งที่ศิลปินลูกทุ่งอินดี้หน้าใหม่อยากจะขอเป็นส่วนหนึ่งในค่ายด้วย และตอนนี้ก็มีศิลปินหน้าใหม่ๆ ร่วมค่ายมากมายอาทิ เรไร ไหทองคำ , ฟ้าใส ไหทองคำ , หลี่ซัง ไหทองคำ , บัวไห ไหทองคำ ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนนั้น แซ่บสะท้านเดือดปรอทแตก ไม่แพ้รุ่นพี่ ลำไย ไหทองคำ เลยทีเดียว
ลำไย ไหทองคำ เกือบจะไม่ได้ใช้ชื่อนี้ในวงการแล้ว โดยย้อนไปเมื่อครั้งที่เธอได้พบกับ อ.ประจักษ์ชัย ในช่วงแรก ๆ เขาได้คิดชื่อในวงการให้เธอเลือก 2 ชื่อ คือ "ลำไย ไหทองคำ" และ "สำเพ็ง เด้งดี" แต่สาวลำไยเห็นว่าชื่อสำเพ็ง ฟังดูเหมือนชื่อย่านขายของมากกว่า ทำให้คนอาจสับสน เลยตัดสินใจเลือกชื่อ "ลำไย ไหทองคำ" นั่นเอง โดยเพลงแรกของเธอที่ถูกปล่อยออกมามีชื่อว่าเพลง 17 สิเข้า ซึ่งมีท่าเต้นสุดสะเด่าที่ทำเอาเธอโดนวิจารณ์อย่างหนัก แต่ความแซ่บของเธอกลับยิ่งทำให้มีคนติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับกระแสในแง่ลบเรื่องท่าเต้นที่ไม่เหมาะสม ทำให้ถูกที่โรงเรียนตักเตือน
หลังจากที่เพลง 17 สิเข้า เป็นกระแสดราม่าเรื่องท่าเต้นไปได้สักพัก ในช่วงปลายปี 2559 สาวลำไยก็ได้มีโอกาสถ่ายทอดบทเพลง ผู้สาวขาเลาะ ที่แต่งโดย อาม ชุติมา ซึ่งเป็นเพลงหมอลำสนุก ๆ มีเนื้อหาพูดถึงสาว ๆ ที่ชอบเที่ยวลั้ลลา นอกจากเนื้อเพลงจะเป็นภาษาอีสานแท้ ๆ แล้ว ดนตรียังเป็นแบบหมอลำสไตล์เร็กเก้ มีความแปลกใหม่ ส่งผลให้เพลงนี้ติดหูคนฟังได้อย่างง่ายดาย กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ต
ข้อมูลรายได้ของค่ายเพลง "ไหทองคำ เรคคอร์ด" ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนในสื่อสาธารณะ แต่ค่ายนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเพลงลูกทุ่งและหมอลำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และได้สร้างรายได้มหาศาลจากหลายช่องทาง อาทิ
1. การจำหน่ายเพลง: การจำหน่ายเพลงทั้งในรูปแบบดิจิทัล (เช่น สตรีมมิง) และซีดี ทำให้ค่ายสามารถสร้างรายได้จากการขายเพลงฮิตอย่าง “ผู้สาวขาเลาะ,” “กะเทยเร่ร่อน,” และอื่นๆ
2. การจัดคอนเสิร์ตและโชว์สด: การจัดคอนเสิร์ตและการแสดงสดเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญในการสร้างรายได้สำหรับค่ายเพลงนี้ โดยเฉพาะการจัดงานคอนเสิร์ตของลำไย ไหทองคำ และศิลปินในค่ายที่มีความนิยมสูง
3. ธุรกิจสินค้าพรีออเดอร์และของที่ระลึก: ค่ายไหทองคำยังมีการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับศิลปิน เช่น เสื้อผ้า หมวก หรือสินค้าที่มีโลโก้ค่าย ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับค่าย
4. การโปรโมทและโฆษณา: ศิลปินในค่ายไหทองคำมักได้รับโอกาสในการร่วมโฆษณาสินค้าหรือบริการต่างๆ ซึ่งทำให้ค่ายได้รับค่าตอบแทนจากการร่วมงานในแคมเปญต่างๆ
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุ บริษัท ไหทองคำ เรคคอร์ด จำกัด มีรายชื่อกรรมการคือ นางโยษิตา นาสูงชน วันที่จดทะเบียนจัดตั้ง 30 ม.ค. 2561 ทุนจดทะเบียน 5,000,000.00 บาท
รายได้ปี 62 (บาท) 10,970,051.44
กำไร 1,202,400.46 บาท
ปี 63 รายได้ 12,409,683.17
กำไร 1,244,790.45 บาท
ปี 64 รายได้ 9,170,036.42
กำไร 1,273,081.27 บาท
ปี 65 รายได้ 16,684,789.29
กำไร 2,156,444.63 บาท
ปี 66 รายได้ 18,817,893.49
กำไร 2,312,273.62