ผ่าปมเดือด "สมยศ" ทิ้งหนี้ 560 ล้านให้ "มาดามแป้ง" เคลียร์

12 มีนาคม 2568

ย้อนไทม์ไลน์ สรุปประเด็นเดือด ข้อพิพาทระหว่าง "มาดามแป้ง" เตรียมฟ้อง "สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” หลังทิ้งหนี้ที่ ต้องจ่าย 360 ล้าน รวมดอกเบี้ย 560 ล้าน ให้กับสยามสปอร์ต

"ผมอิจฉานายกใหม่นะ เข้ามาสบายเลย ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์เหมือนผมที่เข้ามามีแค่กุญแจดอกเดียว แต่ตอนนี้ทิ้งสมาคมฯ ไว้พร้อมทุกอย่างแล้ว" 

นั่นคือ คำพูดของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก่อนพ้นตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฟังดูเหมือนเป็นการส่งต่อสมาคมที่มั่นคงและเติบโต แต่สิ่งที่ปรากฏกลับเป็น หนี้สิน 560 ล้าน

"แป้งไม่ได้ก่อหนี้ 560 ล้าน แต่ต้องมาแก้ปัญหาเอง ทนเห็นสมาคมฯ ล้มไม่ได้ ต้องสู้เพื่อให้มันอยู่รอด" นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวในงานแถลงเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 68 

ที่ผ่านมาความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารชุดเก่ากับ กับทีมบริหารชุดใหม่ของสมาคมกีฬาฟุตบอลมีมาตลอด แต่ที่เกิดขึ้นล่าสุด ดูจะมีความรุนแรงมากกว่าครั้งไหนๆ เมื่อ"มาดามแป้ง" ไม่ทนต่อสิ่งที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ ม่วงทิ้งมรดกหนี้ไว้กว่า 560 ล้านบาท 

โพสต์ทูเดย์พาไปไล่เรียงตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันว่าเรื่องเกิดจากอะไร 
 

ผ่าปมเดือด \"สมยศ\" ทิ้งหนี้ 560 ล้านให้ \"มาดามแป้ง\" เคลียร์

จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง

จุดเริ่มต้นมหากาพครั้งนี้มาจาก วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559  พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หลังเข้ารับตำแหน่ง เขาได้สั่งตรวจสอบการทำงานของอดีตนายกสมาคมฯ นายวรวีร์ มะกูดี เพื่อความโปร่งใสในการบริหารงาน พร้อมประโยคที่หล่นทิ้งไว้ว่า "ผมเข้ามาสมาคมแห่งนี้ มีกุญแจแค่ดอกเดียว" 

หลังจากนั้นปี 2560 : สมาคมฯ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ. สมยศ ได้ยกเลิกสัญญาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยลีกกับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) โดยให้เหตุผลว่าต้องการปรับปรุงระบบการจัดการและเพิ่มรายได้ให้กับสมาคมฯ 

"สัญญามีความผูกขาด บางส่วนไม่ชัดเจน และไม่เป็นธรรมต่อสมาคมฯ" ทั้งที่สัญญาดังกล่าวซึ่งทำขึ้นในสมัยของนายวรวีร์ มะกูดี มีอายุตั้งแต่ปี 2556-2565

การตัดสินใจของกรรมการบริหารสมาคมฯดังกล่าวนำไปสู่การฟ้องร้องระหว่างทั้งสองฝ่าย และหลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานเกือบ 9 ปี

เปิดข้อสังเกต เหตุยกเลิกลิขสิทธิ์กับสยามสปอร์ต 

ก่อนที่ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จะเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในปี 2015 มูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยลีกมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้:

- ฤดูกาล 2011-2013 : ทรูวิชั่นส์เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด โดยมีมูลค่ารวม 600 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท 

- ฤดูกาล 2014-2016 : ทรูวิชั่นส์ยังคงเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ โดยมีมูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 600 ล้านบาท  

หลังจากที่ พล.ต.อ. สมยศ เข้ารับตำแหน่งในปี 2015 สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ต่อสัญญากับทรูวิชั่นส์สำหรับฤดูกาล 2017-2020 โดยมีมูลค่ารวม 4,200 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1,050 ล้านบาท 
 

ผ่าปมเดือด \"สมยศ\" ทิ้งหนี้ 560 ล้านให้ \"มาดามแป้ง\" เคลียร์

มูลค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

- ฤดูกาล 2021-2022 : AIS Play เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ โดยมีมูลค่า 800 ล้านบาท 

- ฤดูกาล 2022-2023 : AIS Play ยังคงเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ โดยมูลค่าลดลงเหลือ 300 ล้านบาท  

- ฤดูกาล 2023-2024 : ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับมูลค่าลิขสิทธิ์ในฤดูกาลนี้

- ฤดูกาล 2024-2025 : ทรูวิชั่นส์ได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดสด โดยมีมูลค่าประมาณ 60-100 ล้านบาท  

จะเห็นได้ว่ามูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยลีกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สยามสปอร์ตคือผู้ชนะ 

หลังจากถูกยกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม สยามปอร์ต เดินหน้าฟ้องสมาคมกีฬาฟุตบอล 

คดีนี้เริ่มจาก บริษัท ซีนิแพล็กซ์ จำกัด (บริษัทในเครือของผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก) เป็นฝ่ายยื่นฟ้อง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดเสียงและภาพการแข่งขันฟุตบอลที่จัดโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

ต่อมาทาง บมจ. สยามสปอร์ตฯ ได้ยื่นฟ้อง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับพวกรวม 20 คน ในประเด็นเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และการละเมิดสัญญา

และต่อสู้กันมานานถึง 9 ปี สุดท้ายศาลตัดสินให้สยามสปอร์ตเป็นผู้ชนะ โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้ 

- 2561 : บริษัท สยามสปอร์ตฯ ฟ้องร้องสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เรียกค่าเสียหาย 1,401 ล้านบาท โดยกล่าวหาว่าสมาคมฯ ยกเลิกสัญญาโดยไม่เป็นธรรม.

  - ศาลชั้นต้น: พิพากษาให้สมาคมฯ ชดใช้ค่าเสียหาย 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย.

  - ศาลอุทธรณ์: เพิ่มจำนวนค่าเสียหายเป็น 450 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย.

  - ศาลฎีกา: ปรับลดค่าเสียหายเหลือ 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย.

ในขณะเดียวกัน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ฟ้องร้องสยามสปอร์ตฯ เรียกค่าเสียหาย 1,139 ล้านบาท โดยอ้างว่าสยามสปอร์ตฯ ไม่ได้ส่งมอบรายได้จากการถือสิทธิประโยชน์ให้กับสมาคมฯ.

  - ศาลชั้นต้น: พิพากษาให้สยามสปอร์ตฯ ชดใช้ค่าเสียหาย 99 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย.

  - ศาลอุทธรณ์: ยกฟ้องคำร้องของสมาคมฯ.

  - ศาลฎีกา ไม่รับฎีกาของสมาคมฯ ทำให้สยามสปอร์ตฯ ชนะคดีนี้

ผ่าปมเดือด \"สมยศ\" ทิ้งหนี้ 560 ล้านให้ \"มาดามแป้ง\" เคลียร์

มาดูประเด็นหนี้สินและคดีความของสมาคมฯ ที่เกิดขึ้นในยุค พล.ต.อ.สมยศ ให้เข้าใจง่าย ๆ กัน

1 หนี้จากคดีถ่ายทอดสด

ศาลฎีกาสั่งให้สมาคมฯ จ่ายเงิน 360 ล้านบาท เพราะยกเลิกสัญญาถ่ายทอดสดกับสยามสปอร์ตแบบไม่เป็นธรรม สมัยสมยศเป็นนายกฯ แถมมีดอกเบี้ยเพิ่มมาอีก จนหนี้อาจพุ่งไปถึง 560 ล้านบาท

2 กู้เงินฟีฟ่า 155 ล้านบาท

สมาคมฯ กู้เงินจากฟีฟ่า 5 ล้านเหรียญ (ราว 155 ล้านบาท) ในยุคสมยศ โดยต้องคืนด้วยการให้ฟีฟ่าหักจากเงินสนับสนุนปีละ 42 ล้านบาท ยาวไปถึงปี 2575

3 ค่าทนาย 30 ล้าน – โปร่งใสหรือไม่?

คดีเดียวกันกับสยามสปอร์ต จ่ายค่าทนายศาลฎีกาไป 30 ล้านบาท ทั้งที่ศาลชั้นต้นจ่ายแค่ 750,000 บาท และศาลอุทธรณ์ 300,000 บาท ตัวเลขนี้ดูสูงเกินจริงจนคนสงสัย

4 เงินเดือนสมยศ 1 ล้าน/เดือน – คืนจริงไหม?

มีข้อมูลว่าสมยศได้เงินเดือนจากสมาคมฯ และไทยลีก รวมแล้วกว่า 32 ล้านบาท เขาบอกว่าคืนเงินให้สมาคมฯ แล้ว แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าคืนจริงหรือแค่พูดเฉย ๆ
สรุปแล้ว สมยศบอกว่านี่คือ “มรดก” ที่ทิ้งไว้ให้สมาคมฯ อย่างมั่นคง แต่ดูเหมือนจะเป็น “ระเบิดเวลา” ทั้งเรื่องเงินและการบริหารมากกว่า!

ผ่าปมเดือด \"สมยศ\" ทิ้งหนี้ 560 ล้านให้ \"มาดามแป้ง\" เคลียร์

สรุป  "Data Rights" และ "Gaming Rights"แบบเข้าใจง่าย

ส่วนสรุปประเด็นเรื่องการขายสิทธิ์ "Data Rights" และ "Gaming Rights" ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในยุค "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ พูดถึงนั้นแยกย่อยให้เข้าใจง่ายคือ

1. "Data Rights" และ "Gaming Rights" คืออะไร?

Data Rights: ข้อมูลสถิติจากการถ่ายทอดสด เช่น เปอร์เซ็นต์การครองบอล การบุก ใบเหลือง-ใบแดง ใช้สำหรับวิเคราะห์และประมวลผลการแข่งขัน
Gaming Rights: ชุดข้อมูลเดียวกับ Data Rights แต่ถูกนำไปใช้ในวงการพนันหรือเกม เช่น เกม Fantasy หรือเว็บพนันออนไลน์

2. การขายสิทธิ์เกิดขึ้นยังไง?
แพคเกจรวม: สิทธิ์ถ่ายทอดสด "ไทยลีก" และ "ทีมชาติไทย" ถูกขายพร้อม Data Rights และ Gaming Rights เป็นแพคเกจเดียว
ผู้ดูแล: บริษัท "แพลนบี" (ตัวแทนสมาคมฯ) ขายให้ "สปอร์ตไฟว์" (บริษัทต่างชาติ) เพื่อบริหารจัดการต่อนอกประเทศไทย
รายได้: สมาคมฯ ได้เงินประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี จากแพลนบี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาที่แพลนบีต้องหาเงินให้สมาคมฯ

3. สปอร์ตไฟว์ทำอะไรกับสิทธิ์นี้?
ถ่ายทอดสด: นำสิทธิ์ถ่ายทอดสดไปขายต่อในประเทศ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ (เช่น ช่อง SpoTV) รวมกับกีฬาอื่นๆ ของแพลนบี
Gaming Rights: ทำเงินหลักจากข้อมูลสถิติสด (Live Score) ที่ส่งไปใช้ในเว็บพนัน เกม หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า

4. สมาคมฯ ได้อะไรกลับมา?
เงิน: รายได้แน่นอนทุกปีจากแพลนบี
ข้อมูล: สถิติจาก "Opta" ใช้ในงานสื่อ ถ่ายทอดสด วิเคราะห์เกม และเฝ้าระวังการล้มบอล

5. ปัญหาที่สมาคมฯ ชุดปัจจุบันมอง?
การขายยาว: แพลนบีขายสิทธิ์ยาวจนหมดสัญญา ทำให้สมาคมฯ ไม่สามารถควบคุมหรือเปิดประมูลใหม่ได้ง่ายๆ
ซื้อคืน: สมาคมฯ อยากให้ผู้ประมูลเลือกได้ว่าจะซื้อสิทธิ์ในหรือนอกประเทศแยกกัน จึงเจรจาซื้อคืนบางส่วน แต่สปอร์ตไฟว์ยังเก็บ "Gaming Rights" (Betting Rights) ไว้


ดังนั้นยุค "บิ๊กอ๊อด" ขายสิทธิ์ถ่ายทอดสด+ข้อมูล+พนัน เป็นแพคเกจเดียวผ่านแพลนบีให้สปอร์ตไฟว์ ได้เงินแน่นอน 40 ล้านต่อปี และข้อมูลสถิติใช้เอง แต่สมาคมฯ ชุด "มาดามแป้ง" มองว่าการขายยาวแบบนี้จำกัดโอกาสเปิดประมูลใหม่ จึงอยากซื้อคืนบางส่วน แต่ติดที่สปอร์ตไฟว์ไม่ยอมคืนสิทธิ์
ผ่าปมเดือด \"สมยศ\" ทิ้งหนี้ 560 ล้านให้ \"มาดามแป้ง\" เคลียร์

ผลกระทบต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดปัจจุบัน

ปัจจุบันภายใต้การนำของนางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน สมาคมฯ ต้องรับผิดชอบหนี้สินรวม 665 ล้านบาท จากการแพ้คดีให้กับสยามสปอร์ตฯ.

ทางแก้ไขของสมาคมฟุตบอลชุดปัจจุบัน

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประกาศเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และคณะกรรมการบริหารชุดก่อนหน้า เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสมาคมฯ

ซึ่งมาดามแป้งประกาศชัดเจนว่าจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม “สภากรรมการเฉพาะกิจ”  เพื่อขอความเห็นชอบในการฟ้องร้องไล่เบี้ยคืนจากอดีตนายกสมาคมฯ และกรรมการชุดเก่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ มาตรา 76

"เราจะปล่อยให้สมาคมฯ ที่ถือสิทธิทีมชาติทุกชุด ไทยลีกทุกชุด ล้มละลายหรือโดนยึดทรัพย์ไม่ได้ เราทนเห็นทุกอย่างล้มลงต่อหน้าไม่ได้เด็ดขาด" 

ซึ่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลคนปัจจุบันเผยว่าจะเข้าพบกับ ระวิ โหลทอง ผู้ก่อตั้งสยามสปอร์ต เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ต่อไป 

ผลกระทบทางการเงินต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

แม้ว่าคดีความจะสิ้นสุดลง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมาก สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กำลังเผชิญปัญหาทางการเงิน โดยเฉพาะเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติทางการเงิน การต้องชดใช้เงิน 360 ล้านบาทอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องขององค์กร ซึ่งอาจกระทบไปถึงการบริหารจัดการทีมฟุตบอล รวมถึงสวัสดิการของนักกีฬาและบุคลากรในสมาคมฯ

คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารสัญญาภายในองค์กรกีฬา รวมถึงผลกระทบทางการเงินที่เกิดจากข้อพิพาททางกฎหมาย แม้ว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่ปัญหาทางการเงินของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อาจยังต้องได้รับการบริหารจัดการต่อไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อวงการฟุตบอลไทยในระยะยาว
 

Thailand Web Stat