จาก 98 สู่ 462 ร้าน : 8 ปีมิชลิน เสวนาเคล็ดลับยกระดับอาหารไทยสู่สากล
ททท. จัดเสวนาฉลองความสำเร็จมิชลินไกด์ในไทย พร้อมเชิดชูร้านศรณ์คว้า 3 ดาวแรกของไทย ชู 3 เชฟดังเผยกลยุทธ์ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นสู่ความเป็นเลิศระดับโลก
ททท. จัดเวทีเสวนาสุดพิเศษ "เส้นทางสู่ความเป็นเลิศของอาหารไทยผ่านคู่มือมิชลิน ไกด์" ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของวงการอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลผ่านคู่มือมิชลิน ไกด์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เผยว่าจากจุดเริ่มต้นในปี 2561 ที่มีร้านอาหารในคู่มือมิชลิน ไกด์เพียง 98 ร้าน ปัจจุบันมีร้านอาหารถึง 462 ร้าน ครอบคลุม 11 พื้นที่ทั่วประเทศ โดยไฮไลต์สำคัญในปี 2568 คือการที่ร้านศรณ์ โดยเชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ ได้รับรางวัลสามดาวมิชลินเป็นร้านแรกในประเทศไทย และเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกของโลกที่ได้รับเกียรตินี้
เชฟดังเผยเคล็ดลับความสำเร็จ
งานเสวนาครั้งนี้ได้รวบรวมเชฟชื่อดังที่ได้รับการยกย่องจากมิชลิน ไกด์มาแบ่งปันประสบการณ์ ประกอบด้วย:
เชฟไอซ์ - ศุภักษร จงศิริ จากร้านศรณ์ (3 ดาวมิชลิน) ผู้พลิกโฉมอาหารใต้ให้เป็นไฟน์ไดนิ่งระดับโลก เผยถึงการเดินทางค้นหาวัตถุดิบท้องถิ่นภาคใต้ที่เริ่มสูญหาย และนำมาผสมผสานกับเทคนิคปรุงอาหารสมัยใหม่
เชฟอู๋ - สิทธิกร จันทป จากร้านอัคคี (1 ดาวมิชลิน และ MICHELIN Guide Young Chef Award ปี 2568) ผู้เฟ้นหาวัตถุดิบจากเกษตรกรทั่วประเทศ เพื่อฟื้นฟูสูตรอาหารโบราณและนำเสนอวัฒนธรรมอาหารไทยในรูปแบบสำรับอาหารที่น่าสนใจ
เชฟหนุ่ม - วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ จากร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ (บิบ กูร์มองด์) จังหวัดอุดรธานี ผู้นำเสนออาหารอีสานสมัยใหม่ที่มากกว่าส้มตำไก่ย่าง โดยนำวัตถุดิบจากตลาดพื้นบ้านและฟาร์มออร์แกนิกมาสร้างสรรค์อาหารที่สวยงาม อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ
ภาพลักษณ์อาหารไทยในเวทีโลก
การเติบโตของวงการอาหารไทยในระดับนานาชาติเห็นได้ชัดจากผลการประเมินภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้านอาหารประจำปี 2567 ที่พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมองประเทศไทยเป็น "แหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหารที่โดดเด่น" ในระดับ 53% เพิ่มขึ้นจาก 44% ในปี 2566 ทำให้ไทยครองอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ นิตยสาร Time Out ยังจัดอันดับให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอาหารที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลกประจำปี 2568 เนื่องจากมีอาหารคุณภาพหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ไฟน์ไดนิ่งไปจนถึงสตรีทฟู้ดราคาไม่ถึง 100 บาท
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจคือการที่จังหวัดภูเก็ต (ปี 2558) และจังหวัดเพชรบุรี (ปี 2564) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (City of Gastronomy) ซึ่งจังหวัดภูเก็ตสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจท้องถิ่นจากอาหารได้กว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
ททท. มั่นใจว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) จะช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารชั้นนำของโลกอย่างยั่งยืนต่อไป