ส่องตลาดอาหารญี่ปุ่น "ไทย" ใหญ่สุดในอาเซียน
ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยว่า มีขนาดใหญ่สุดในอาเซียน หรือมีจำนวน 2,364 ร้าน และแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ได้เปิดเผยถึง ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยว่า มีขนาดใหญ่สุดในอาเซียน หรือมีจำนวน 2,364 ร้าน และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยประมาณ 10% ต่อปี ตามแนวโน้มความนิยมของกลุ่มลูกค้าชาวไทย ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นมีมากขึ้น และเพราะในประเทศไทย อยู่ในอันดับ 6 ของการส่งออกสินค้ากลุ่มอาหาร เกษตร ป่าไม้ และประมง ของประเทศญี่ปุ่นไปตลาดโลก โดยมีมูลค่า 1.14 หมื่นล้านบาท และสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน โดยตลาดที่มีการส่งออกรองลงมาได้แก่ เวียดนาม และสิงคโปร์
"สะชิโอะ ทาคิยะมะ"ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการค้า องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) กล่าวว่า ได้นำผู้ประกอบการกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจากประเทศญี่ปุ่น มาร่วมงาน แสดงสินค้าอาหาร 2559 (THAIFEX-WORLD of food ASIA2016) จัดขึ้นวันที่ 25-27 พ.ค.2559 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 4 โดยนำได้นำผู้ประกอบการกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม มาร่วมงานไทยเฟ็กซ์จำนวน 72 บริษัท เพิ่มมากขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวน 55 บริษัท โดยเป็นกลุ่มสินค้าประมงมากที่สุด รองลงมา กลุ่มเนื้อวัว และกลุ่มขนม ซึ่งผู้ประกอบการที่มางานในครั้งนี้ เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ถึง 42 บริษัท โดยส่วนใหญ่ต้องการเปิดตลาดในไทย หาคู่ค้า และเชื่อมโยงตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน
“ยูจิ ฮาชิโมโต” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Takamori Kosan ผู้ผลิตและทำตลาด เส้นบะหมี่ “Taka mori” จาก จ.คุมะโมะโตะ กล่าวว่า สนใจที่จะเข้ามาร่วมงานแสดงสินค้าไทย เพราะลูกค้าชาวไทยสนใจอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาหารจากเส้น อีกทั้งตลาดในไทยผู้บริโภคมีกำลังซื้อในระดับสูง และมีค่าครองชีพที่ใกล้เคียงกับประเทศญี่ปุ่น แตกต่างจากประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน โดยที่ผ่านมาแบรนด์ได้เข้ามาทำตลาดและมีช่องทางจำหน่ายในไทยแล้ว โดยพบว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างยอดขายในไทยเติบโตกว่า 150%
“บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใน จังหวัดคุมะโมะโตะ เพราะโรงงานอยู่ในพื้นที่ตอนเหนือ และอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ได้รับผลกระทบเรื่องการขนส่งสินค้า ซึ่งการเข้ามาร่วมงานแสดงสินค้าอาหารไทยต่อเนื่อง เพราะต้องการพบกับลูกค้าคนไทย และการขยายตลาดในไทยมากขึ้น” ฮาชิโมโต กล่าว
“ทาเคฮิสะ นากาทานิ” ผู้อำนวยการ บริษัท Daikichi Shouten ผู้ผลิตเนื้อวัว “โอมิ บีฟ” (Omi beef) จาก จ.ชิกะ กล่าวว่า ได้เข้ามาร่วมงานแสดงสินค้าไทยเฟ็กซ์เป็นครั้งที่สองแล้ว และต้องการขยายตลาดเนื้อวัว โอมิ บีฟ ให้ลูกค้าคนไทยรู้จัก รวมถึงต้องการเจาะตลาดร้านอาหาร และโรงแรม ภัตตาคาร ระดับบน (พรีเมียม) ซึ่งอยู่ระหว่างการหาคู่ค้าในไทย เพื่อทำตลาดในประเทศไทย โดยมีความเชื่อมั่นว่าตลาดไทย มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง จากก่อนหน้านี้ได้เข้าไปทำตลาดในประเทศสิงคโปร์แล้ว พบว่า ตลาดเติบโตดีเช่นกัน
“จารุวรรณ ชิมาซากิ” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แอกกริ-โคออร์ดิเนชั่น เชียงใหม่ ผู้นำเข้าชาจากประเทศญี่ปุ่น ในจ.คาโกชิมา ในชื่อแบรนด์ “Sakurajima” กล่าวว่า บริษัทได้นำเข้าชาเชียว ออแกนิคส์ เข้ามาทำตลาดในไทยประมาณ 3-4 ปีแล้ว โดยเน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่ต้องการเครื่องดื่มชาเพื่อสุขภาพ และปลอดสารพิษ ซึ่งที่ผ่านมา ยอดขายในไทยเติบโตเท่าตัว อีกทั้งการเข้ามาร่วมงานไทยเฟ็กซ์ เชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสสำคัญได้คู่ค้าใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทย และในตลาดโลก
“จุนนิชิ ฮัทโทริ” รองผู้จัดการโรงงาน บริษัท Shimizu Shoten จากจังหวัด อิบารากิ ผู้ทำตลาดสินค้าอาหารทะเล กล่าวว่า ตลาดอาหารทะเลในประเทศไทยมีความน่าสนใจระดับสูง และที่ผ่านมาได้เข้ามาทำตลาดในไทยประมาณ 3 ปี ยอดขายเติบโตสูงทุกปี หลังจากนี้ไปเตรียมนำสินค้า ปลาหมึกยักษ์ เข้ามาโปรโมตในไทยมากขึ้น เพราะเชื่อว่า ผู้บริโภคคนไทยยังรู้จักไม่มากนัก จึงเชื่อว่า ตลาดในไทยมีศักยภาพจะขยายตัวได้ดีอีกมาก
“คาโกะ ซาซาอิ” รองผู้อำนวยการ แผนกกลุ่มอาหาร เกษตร ป่าไม้ และประมง ของเจโทร ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เจโทรมีแผนผลักดันผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นมาขยายตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดงานแสดงสินค้า และการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อขยายตลาดการส่งออกใหม่ โดยตลาดในไทยคิดเป็นสัดส่วน ประมาณ 4.8% ของการส่งออกของประเทศญี่ปุ่นไปทั่วโลก และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ดีในระยะยาว
ถือว่า ตลาดอาหารญี่ปุ่นในไทยกำลังเติบโตได้อย่างดีต่อเนื่อง โดยแนวโน้มผู้ประกอบการญี่ปุ่นมีความสนใจขยายตลาดเข้ามาในไทยในระดับสูง เพื่อหาพันธมิตรเป็นผู้ประกอบการไทย ร่วมขยายตลาดในไทยและในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น
