posttoday

เปิดปูมประวัติศาสตร์ "5พระเจ้ามหาราชของโลก"

24 ตุลาคม 2559

สมัญญานามมหาราชเป็นการทูลเกล้าฯ ถวายตามบริบทของเวลา เพื่อเทิดพระเกียรติของกษัตริย์ในยุคนั้นๆ

โดย...กองบรรณาธิการโพสต์ทูเดย์

กษัตริย์หลายพระองค์ในประวัติศาสตร์โลกได้รับการยกย่องให้ใช้สมัญญานาม “มหาราช” (The Great) ต่อท้ายพระนาม โดยสมัญญานามมหาราชนั้น สันนิษฐานว่ามีการใช้ครั้งแรกในสมัยเปอร์เซีย ซึ่งมีที่มาจากคำว่า ชาห์ฮันชาห์ แปลว่า ราชันย์เหนือราชันย์ และกษัตริย์พระองค์แรกที่ทรงได้รับการขนานนามว่าเป็นมหาราช คือพระเจ้าไซรัสที่ 2 แห่งเปอร์เซีย ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิอาคีเมนิด หรืออาณาจักรเปอร์เซียยุคแรก

ทั้งนี้ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร แสดงทัศนะว่า โดยทั่วไปแล้ว สมัญญานามมหาราชของกษัตริย์์มาจากการแผ่พระราชอำนาจและการขยายอาณาจักรออกไปอย่างกว้างขวาง

อย่างไรก็ดี การยกย่องให้กษัตริย์พระองค์หนึ่งขึ้นเป็นมหาราชนั้น ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่ชัด เช่น พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ที่ครองราชย์มาอย่างยาวนานกว่า 72 ปี และทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งของฝรั่งเศสไม่ได้มีสมัญญานามมหาราช (The Great) ต่อท้ายพระนาม แต่ได้รับการถวายสมัญญานามว่า สุริยะราชา (The Sun King) ขณะที่จักรพรรดิ นโปเลียนที่ 1 ผู้สามารถขยายอาณาจักรออกไปได้กว้างไกลทั่วยุโรปช่วงต้นศตวรรษที่ 19 กลับไม่ได้รับสมัญญานามมหาราช

นอกจากนี้ ข้อมูลประวัติศาสตร์ตะวันตก ระบุว่า สมัญญานามมหาราชเป็นการทูลเกล้าฯ ถวายตามบริบทของเวลา เพื่อเทิดพระเกียรติของกษัตริย์ในยุคนั้นๆ

พระราชประวัติของ 5 มหาราชโลก

เปิดปูมประวัติศาสตร์  \"5พระเจ้ามหาราชของโลก\" พระเจ้าไซรัสที่ 2 แห่งเปอร์เซีย

ดังที่กล่าวไปข้างต้น มหาราชพระองค์แรก คือ พระเจ้าไซรัสที่ 2 แห่งเปอร์เซียเป็นปฐมกษัตริย์แห่งจักรวรรดิอาคีเมนิด อาณาจักรขนาดใหญ่ที่สุดในยุคโบราณช่วง 330 ปีก่อนคริสตกาลถึงปี 550 โดยทรงก่อตั้งอาณาจักรจากการผนวกดินแดนแถบตะวันออกใกล้ในยุคโบราณ แล้วขยายอาณาจักรไปจนครอบคลุมเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียกลางส่วนใหญ่ ยุโรปบางส่วน และคอเคซัส พระองค์ได้รับการยอมรับในด้านการวางรากฐานการเมือง กลยุทธ์การทหาร และสิทธิมนุษยชน ที่ปรากฏอยู่บนจารึกแห่งไซรัส ซึ่งเป็นบันทึกเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนชิ้นแรกของโลก

เปิดปูมประวัติศาสตร์  \"5พระเจ้ามหาราชของโลก\" พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซิโดเนีย

สำหรับมหาราชพระองค์ต่อมาที่ได้รับการยกย่องนั้น คือ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซิโดเนียผู้โด่งดังไปทั่วโลก โดยทรงเป็นกษัตริย์ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องการรบ ผู้ขยายอาณาจักรไปได้เกือบครึ่งโลก โดยใช้เวลาประมาณ 10 ปี ในการเข้ายึดเอเชียไมเนอร์ และพิชิตอาณาจักรเปอร์เซีย ผลงานที่โดดเด่นในยุคของพระองค์ คือ การเผยแพร่วัฒนธรรมกรีกเข้าในดินแดนตะวันออก จนก่อให้เกิดวัฒนธรรมเฮเลนิสติกขึ้น ผ่านการสร้างเมืองอาณานิคมต่างๆ ในดินแดนที่บุกยึดได้ โดยเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ เมือง อเล็กซานเดรีย ซึ่งกลายมาเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศอียิปต์

เปิดปูมประวัติศาสตร์  \"5พระเจ้ามหาราชของโลก\" พระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย

ขณะเดียวกัน พระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซียได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่นำพารัสเซียพ้นจากความล้าสมัย โดยพระองค์ได้ขยายอาณาจักรออกไปอย่างกว้างไกลสู่การเป็นจักรวรรดิอันน่าเกรงขามแห่งยุโรป ขณะที่ทรงเป็นผู้นำการปฏิวัติวัฒนธรรมและสังคม ด้วยการนำวิทยาศาสตร์และแนวคิดสมัยใหม่มาใช้พัฒนาประเทศ ส่งผลให้รัสเซียกลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ชาติหนึ่งในยุโรป

เปิดปูมประวัติศาสตร์  \"5พระเจ้ามหาราชของโลก\" พระเจ้าอโศกมหาราช

ด้านมหาราชแห่งเอเชียใต้หรือประเทศอินเดียในปัจจุบันทรงมีความโดดเด่นในเรื่องศาสนา โดยพระเจ้าอโศกมหาราช จักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมริยะ ทรงขยายอาณาเขตครอบคลุมอนุภูมิภาคอินเดียทั้งหมด ที่ประกอบด้วย อินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน และบังกลาเทศในปัจจุบัน ในช่วงแรกพระเจ้าอโศกเป็นกษัตริย์ที่มีความโหดเหี้ยมเด็ดขาด แต่หลังจากนั้นพระองค์ได้หันมานับถือพระพุทธศาสนา และส่งเสริมการเผยแพร่ศาสนา จนทำให้พระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองมากที่สุดสมัยหนึ่ง

เปิดปูมประวัติศาสตร์  \"5พระเจ้ามหาราชของโลก\" จิ๋นซีฮ่องเต้

แม้ในสมัยอาณาจักรจีนยุคโบราณ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้รับการถวายสมัญญานามมหาราช แต่กษัตริย์หลายพระองค์มีบทบาทสำคัญในการขยายดินแดนและพัฒนาอาณาจักร เช่น จิ๋นซีฮ่องเต้ ที่ทรงขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีน แห่งราชวงศ์ฉิน หลังผนวกดินแดนที่แตกออกเป็นก๊กต่างๆ ในยุครัฐศึกของจีนได้สำเร็จ พระองค์ทรงพยายามปฏิรูประบบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนำไปสู่การสั่งเผาตำราและสังหารบัณฑิตจำนวนมาก ขณะที่สร้างถนนขนาดใหญ่ภายในเมือง และสานต่อการสร้างกำแพงเมืองจีน เพื่อปกป้องการรุกรานของชนเผ่าอื่นๆ และเพิ่มการควบคุมพรมแดน