กลุ่มสิทธิสัตว์เดือด! ปาร์กกึนเฮทอดทิ้งหมา 9 ตัวไว้ที่ทำเนียบ
กลุ่มสิทธิสัตว์เกาหลีใต้เผย อดีตประธานาธิบดีทิ้งสุนัขสายพันธุ์แห่งชาติไว้ที่บ้านประจำตำแหน่งหลังย้ายออก เจ้าหน้าที่เร่งหาบ้านให้ใหม่
กลุ่มสิทธิสัตว์เกาหลีใต้เผย อดีตประธานาธิบดีทิ้งสุนัขสายพันธุ์แห่งชาติไว้ที่บ้านประจำตำแหน่งหลังย้ายออก เจ้าหน้าที่เร่งหาบ้านให้ใหม่
สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า กลุ่มการอยู่ร่วมกันของสิทธิสัตว์บนโลกมนุษย์ (แคร์) กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ในเกาหลีใต้ แถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุ อดีตประธานาธิบดีปาร์กกึนเฮได้ทอดทิ้งสุนัขพันธ์ "จินโด" 2 ตัว ที่รับเลี้ยงไว้ ในทำเนียบประจำตำแหน่ง ซึ่งปาร์กกึนเฮต้องย้ายออกไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินถอดถอนออกจากตำแหน่ง
กลุ่มดังกล่าว ระบุว่า ปาร์กกึนเฮไม่มีความรับผิดชอบต่อการรับเลี้ยงสุนัขทั้งสองตัวเพศผู้และเมีย ชื่อ ฮีแมงและแซรอม ตามลำดับ พร้อมยังปล่อยให้สุนัขทั้งสองผสมพันธุ์จนมีลูก 2 คอก โดยคอกแรกมีจำนวน 5 ตัว ซึ่งปาร์กกึนเฮประกาศหาบ้านให้ในภายหลัง ในปี 2015 และคอกที่สอง จำนวน 7 ตัว ซึ่งเพิ่งเกิดเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนถูกปาร์กกึนเฮทอดทิ้งทั้งฝูง
ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดี ยืนยันเรื่องดังกล่าว และระบุว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ของทำเนียบประธานาธิบดีกำลังดูแลสุนัขทั้งหมด และจะหาบ้านให้กับสุนัขต่อไป
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวเกียวโด ระบุว่า แคร์เตรียมช่วยหาบ้านที่เหมาะสมให้กับสุนัขพันธุ์ดังกล่าวที่เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่และกินมากในแต่ละมื้อ เนื่องจากกลัวว่าจะถูกขายไปยังผู้ที่ไม่สามารถเลี้ยงได้ และจบลงด้วยการฆ่าเอาเนื้อปาร์กกึนเฮรับเลี้ยงสุนัขทั้งสองตัวดังกล่าวในเดือน ก.พ.2013 หลังได้รับตำแหน่ง โดยทำเนียบประธานาธิบดีมักเปิดเผยภาพของปาร์กกึนเฮและสุนัขอยู่เสมอ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับปาร์กกึนเฮที่ครองโสดและไม่มีบุตรหลาน
"คุณทอดทิ้งครอบครัวของคุณเหมือนที่คุณโยนรองเท้าเก่าๆ ทิ้งได้อย่างไร" สำนักข่าวเอเอฟพีเปิดเผยข้อความจากผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่งที่ไม่พอใจการกระทำของปาร์กกึนเฮ
ทั้งนี้ สุนัขพันธุ์จินโด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสายพันธุ์แห่งชาติเมื่อปี 1962 และได้ชื่อว่ามีความจงรักภักดีต่อนาย โดยเกาหลีใต้เคยพยายามผลักดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกพิจารณานำสุนัขพันธุ์ดังกล่าวขึ้นเป็นมาสคอตของกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 แทนที่จะเป็นเสือ แต่คระกรรมการโอลิมปิกปฏิเสธเนื่องจากไม่ต้องการให้การแข่งขันเผชิญกับการโต้แย้งจากภาพลักษณ์และประเพณีของเกาหลีใต้ที่นิยมกินเนื้อสุนัข
ภาพจาก ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้