จีนสยายปีกบุก "เส้นทางสายไหมขั้วโลก"
จีนประกาศนโยบาย ลุยทางสายไหมขั้วโลก เตรียมใช้ประโยชน์จากภาวะโลกร้อนเปิดเส้นทางเดินเรือระหว่างเอเชีย-ยุโรป
จีนประกาศนโยบาย ลุยทางสายไหมขั้วโลก เตรียมใช้ประโยชน์จากภาวะโลกร้อนเปิดเส้นทางเดินเรือระหว่างเอเชีย-ยุโรป
ไฟแนนเชียลไทมส์ - รัฐบาลปักกิ่งเตรียมออกนโยบายว่าด้วยการบุกเบิกใช้เส้นเดินเรือใหม่ในแถบขั้วโลกโดยตั้งเป้าเป็นเส้นทางสายไหมขั้วโลก หรือ “Polar Silk Road” โดยใช้ประโยชน์จากการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกจากสภาวะโลกร้อน เปิดเส้นทางการเดินเรือระหว่างเอเชีย กับ ยุโรปให้สะดวกยิ่งขึ้น
รายงานระบุว่าเส้นทางดังกล่าวจะถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) ตามนโยบายของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง โดยในเอกสารแถลงนโยบายดังกล่าวจีนระบุว่า รัฐบาลจีนหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะประเทศในแถบอาร์กติกอย่างรัสเซีย ด้วยการพัฒนาเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าดังกล่าว อีกทั้งจีนยังรับประกันว่าประเทศทุกประเทศมีสิทธิใช้เส้นทางนี้
การละลายของน้ำแข็งในแถบอาร์ติกทำให้เกิดเส้นทางเดินเรือที่เรียกว่า Northern Sea Route ผ่านทางตอนเหนือของรัสเซีย ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างเอเชียและยุโรปลงได้มากกว่าการใช้เส้นทางเดินเรือผ่านคลองสุเอซตามปกติกซึ่งจะใช้เวลาถึง 48 วันโดยคาดว่าเส้นทางใหม่นี้จะใช้เวลาเพียงครึ่งนึงหรือราว 20 วันเท่านั้นหากคำนวนจากเส้นทางเดินเรือจากจีนไปยังท่าเรือรอตเทอดัมในประเทศเนเธอร์แลนด์
นอกจากนี้จีนยังระบุในเอกสารแถลงการว่า จีนมีความสนใจในทรัพยากรธรรมชาติแถบอาร์คติก เช่นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการทำประมง อีกทั้งยังกล่าวสนับสนุนให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการนี้ด้วย
ทั้งนี้เส้นทางดังกล่าวเป็นที่สนใจของทางการจีน หลังจากที่กลางปีที่แล้วเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียสามารถแล่นจากเกาหลีใต้ไปยังนอร์เวย์ผ่านทางเส้นทางนี้โดยไม่ใช้เรือตัดน้ำแข็งนำหน้า
ด้านนายเคลาท์ ด็อดด์ ศาสตราจารย์ด้านภูมิรัฐศาสตร์จากวิทยาลัย Royal Holloway ของมหาวิทยาลัยลอนดอนกล่าวว่านโยบายดังกล่าวเน้นย้ำถึงมุมมองของจีนว่าอนาคตอาร์คติคจะไปไกลเดิมที่เป็นมา เขายังกล่าว่า หวังว่าจีนจะไม่ลืมสิทธิของเราด้วยในฐานะที่เป็นประเทศที่ได้ควรจะได้รับผลประโยชน์จากการขยายเส้นทางนี้เช่นกัน