ภาวะโลกร้อนทำสุขภาพเด็กพังตั้งแต่เกิดจนโต
องค์กร The Lancet Countdown ซึ่งติดตามความก้าวหน้าด้านสุขภาพและการปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เผยรายงานประจำปีว่าด้วยผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อสุขภาพของมนุษย์ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะสร้างความเสียหายต่อสุขภาพของเด็กไปชั่วชีวิต ทั้งจากการเพิ่มขึ้นของโรคติดต่อร้ายแรงไปจนถึงภาวะขาดสารอาหาร หากคนทั้งโลกยังไม่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
องค์กร The Lancet Countdown ซึ่งติดตามความก้าวหน้าด้านสุขภาพและการปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เผยรายงานประจำปีว่าด้วยผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อสุขภาพของมนุษย์ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะสร้างความเสียหายต่อสุขภาพของเด็กไปชั่วชีวิต ทั้งจากการเพิ่มขึ้นของโรคติดต่อร้ายแรงไปจนถึงภาวะขาดสารอาหาร หากคนทั้งโลกยังไม่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
รายงานฉบับนี้ยังเตือนอีกว่า ขณะนี้เด็กๆ ทั่วโลกล้วนได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศและสภาพอากาศสุดขั้วต่างๆ และคนรุ่นต่อไปจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรคที่แพร่กระจายทางอากาศ ขาดสารอาหารเนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรล้มเหลว หรือแม้แต่ความเครียดทางร่างกายและจิตใจจากปัญหาน้ำท่วมหรือไฟป่า
รายงานของ The Lancet Countdown ระบุต่อไปว่า เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ และขณะนี้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมแล้ว ขณะที่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปอุณหภูมิของโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 4 องศาเซลเซียสภายในปี 2100 และแน่นอนว่าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นิค วัตส์ ประธาน The Lancet Countdown เผยว่า เด็กๆ ที่ลืมตาดูโลกวันนี้มีอายุขัยเฉลี่ย 71 ปี หรือจะอาศัยอยู่บนโลกไปจนถึงปี 2090 ซึ่งหมายความว่าเด็กเหล่านี้จะต้องเผชิญกับวันที่โลกร้อนขึ้น 4 องศาเซลเซียส
รายงานฉบับนี้ยกตัวอย่างว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาพืชพันธุ์ที่เป็นอาหารหลักของโลก อาทิ ข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี ล้วนมีผลผลิตลดลง ส่งผลให้ทารกและเด็กเล็กมีความเสี่ยงขาดสารอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต เช่น หยุดการเจริญเติบโต ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และปัญหาด้านพัฒนาการในระยะยาว รวมทั้งจะมีเด็กที่ไวต่อการติดเชื้อโรคมากขึ้น