4 องค์กรสถาปัตย์-วิศวะฯ ออกโรง! จี้รัฐบาลปรับกฎหมายก่อสร้าง

04 เมษายน 2568

4 องค์กรวิชาชีพออกแบบและก่อสร้างออกแถลงการณ์กรณีภัยพิบัติแผ่นดินไหว จี้รัฐบาล ปรับปรุงกฎหมายก่อสร้าง ยกระดับความปลอดภัยอาคาร

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในประเทศเมียนมาร์เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทยในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

ล่าสุด 4 องค์กรวิชาชีพด้านการออกแบบและก่อสร้างของไทย ได้แก่ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์, วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย และ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

 

ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเสนอแนวทางความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเร่งด่วน เพื่อยกระดับความปลอดภัยของอาคารและสิ่งปลูกสร้างในประเทศ

 

4 องค์กรสถาปัตย์-วิศวะฯ ออกโรง! จี้รัฐบาลปรับกฎหมายก่อสร้าง

ข้อเสนอเร่งด่วน ตั้งคณะทำงานร่วมทบทวนกฎหมาย

 

จากการหารือร่วมกันของตัวแทนทั้ง 4 องค์กรวิชาชีพ ได้มีมติเห็นพ้องต้องกันในการแสดงความรับผิดชอบและให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่

 

เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและยกระดับความปลอดภัยของอาคารในประเทศ โดยมีข้อเสนอสำคัญ 2 ประการ คือ

1. การให้ความช่วยเหลือประชาชน

 

ยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการเตรียมบุคลากรอาสาสมัคร เพื่อตอบคำถามและให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับการตรวจสอบอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงแนวทางการซ่อมแซมหากมีการร้องขอ

 

โดยสมาคมสถาปนิกสยามฯ จะดำเนินการประสานงานกับสมาชิกที่เป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เพื่อให้สถาปนิกและวิศวกรผู้รับผิดชอบโครงการนั้นๆ ได้เข้าเยี่ยมเยียนและให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยในการใช้อาคาร

 

2. การทบทวนกฎหมายและข้อกำหนด

 

เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงาน โดยมีผู้แทนจากทั้ง 4 สมาคมฯ เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อทบทวนกฎหมาย ข้อกำหนด และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและก่อสร้าง

 

ให้มีความสอดคล้องและทันต่อเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และมีความมั่นคงปลอดภัยต่อทรัพย์สินและผู้ใช้งานอาคารมากยิ่งขึ้น

 

4 องค์กรสถาปัตย์-วิศวะฯ ออกโรง! จี้รัฐบาลปรับกฎหมายก่อสร้าง

เสียงจากผู้เชี่ยวชาญ ต่อกรณีแผ่นดินไหว

 

ดร.วีระพันธุ์ ชินวัตร อุปนายก สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะตัวแทนขององค์กรวิชาชีพ ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัยและยืนยันถึงความเกี่ยวข้องของวิชาชีพต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น

 

โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพของสถาปนิกและวิศวกร ที่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและปฏิบัติตามจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด

 

เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารทุกแห่งมีความมั่นคงและปลอดภัย โดยสถาปนิกมีหน้าที่ออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม คำนึงถึงความสวยงาม การใช้งาน และความปลอดภัย รวมถึงการบริหารจัดการการออกแบบร่วมกับวิศวกรทุกระบบ

 

ด้าน นางสาวบุษกร แสนสุข เลขาธิการ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้อธิบายถึงบทบาทหน้าที่สำคัญของวิศวกรทั้งในด้านการวางแผน ออกแบบ ควบคุมงาน และดูแลความปลอดภัย โดยแบ่งเป็น 2 ด้านหลัก คือ

 

การวางแผนและออกแบบที่วิศวกรโครงสร้างจะทำงานร่วมกับสถาปนิกในการออกแบบอาคารให้มั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานและกฎหมาย รวมถึงการออกแบบระบบต่างๆ โดยวิศวกรเครื่องกลและไฟฟ้า

 

และอีกด้านคือการควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบ รายละเอียด และงบประมาณ พร้อมทั้งติดตามประเมินคุณภาพและความเสี่ยง

 

4 องค์กรสถาปัตย์-วิศวะฯ ออกโรง! จี้รัฐบาลปรับกฎหมายก่อสร้าง

บทบาทของ วสท. เมื่อเกิดภัยพิบัติว่า จะมีการส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ประเมินความเสียหาย วิเคราะห์สาเหตุ และเสนอแนะแนวทางการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

 

โดยมีคณะกรรมการเฉพาะทางในด้านต่างๆ พร้อมทั้งมีบทบาทในการบริหารจัดการชุดค้นหาและกู้ภัยในเมืองแห่งชาติ (USAR Team) เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งในและต่างประเทศ

 

ส่วนนายนิวัฒน์ ธัญปิตินันทน์ อุปนายกต่างประเทศ สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงบทบาทของวิศวกรที่ปรึกษา

 

ทั้งในด้านการออกแบบที่ต้องประสานงานกับสถาปนิกและผู้ออกแบบอื่นๆ เพื่อให้งานออกแบบวิศวกรรมมีคุณภาพและเป็นไปตามข้อกำหนด

 

รวมถึงการจัดทำข้อกำหนดทางวิศวกรรม การรับผิดชอบในงานออกแบบตามมาตรฐานและกฎหมาย การคาดการณ์วิธีการก่อสร้างและภาวะการใช้งานที่เหมาะสม และการออกแบบที่คำนึงถึงความประหยัด คุ้มค่า และสิ่งแวดล้อม

 

ขณะที่นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา เลขาธิการ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เน้นย้ำถึงหน้าที่ของผู้ประกอบการงานก่อสร้างในการก่อสร้างให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ตรงตามแบบรูปรายการที่ผู้ออกแบบกำหนด

 

โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้อง ผู้ใช้งาน และประชาชน ซึ่งในขั้นตอนการทำงานจะต้องมีการขออนุมัติแผนงาน วัสดุ และขั้นตอนการก่อสร้างจากผู้ควบคุมงาน ก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างและใช้วัสดุตามที่ได้รับอนุมัติ

Thailand Web Stat