posttoday

มัมมี่เด็กแห่งซิซิลี 'เจ้าหญิงนิทรา' ที่ลือว่าเธอลืมตาได้เอง

10 มกราคม 2565

โรซาเลีย ลอมบาร์โด (Rosalia Lombardo) มัมมี่เด็กที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุดในโลก

เมื่อเร็วๆ นี้มีรายงานว่านักวิทยาศาสตร์วางแผนที่จะใช้เทคโนโลยี X-ray เพื่อไขปริศนาของมัมมี่เด็กในสุสานคาปูชินแห่งปาแลร์โม ทางตอนเหนือของซิซิลี ที่เป็นความลับมากว่า 200 ปี

ดร.เคิร์สตี้ สไควร์ส จากมหาวิทยาลัยสแตฟฟอร์ดเชียร์ของอังกฤษจะเป็นผู้นำในการไขความลับมัมมี่เด็กที่ยังไม่มีใครทราบว่าพวกเขาเป็นใคร ไม่ทราบถึงสาเหตุการตาย และประวัติทางการแพทย์ใดๆ จากมัมมี่เด็กทั้งหมด 163 คนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในโบสถ์เด็กของสุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ 

หนึ่งในมัมมี่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสุสานแห่งนี้คือ โรซาเลีย ลอมบาร์โด (Rosalia Lombardo) เด็กสาวชาวซิซิลีที่เสียชีวิตด้วยโรคปอดบวม อันเป็นผลมาจากโรคไข้หวัดสเปน ในปี 1920 เพียง 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันเกิดปีที่ 2 ของเธอ และได้ชื่อว่าเป็นมัมมี่ที่งดงามที่สุดและถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุดในโลก บางครั้งถูกเรียกว่า "Sleeping Beauty" หรือเจ้าหญิงนิทรา

มาริโอ ลอมบาร์โด (Mario Lombardo) พ่อของเด็กสาววัย 2 ขวบเสียใจกับการจากไปของเธอมากและขอให้อัลเฟรโด ซาลาเฟีย (Alfredo Salafia) เป็นนักดองศพชาวซิซิลีแแห่งทศวรรษ 1900 ช่วยเก็บรักษาศพของเธอไว้

จากการ X-ray พบว่าศพของเด็กน้อยคนนี้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี อวัยวะทั้งหมดไม่บุบสลายอย่างน่าทึ่ง และถูกเก็บไว้ในโลงศพที่เคลือบด้วยแก้ว อยู่ในโบสถ์เล็กๆ ที่สุสานใต้ดินคาปูชิน

ภายหลังมีการพบสูตรการดองศพที่เขียนด้วยลายมือของ Salafia ระบุว่า "กลีเซอรีน 1 ส่วน, ฟอร์มาลิน 1 ส่วน เติมด้วยซิงค์ซัลเฟตและซิงค์คลอไรด์ และสารละลายแอลกอฮอล์ 1 ส่วน และกรดซาลิไซลิก" สารเหล่านี้ถูกฉีดเข้าสู่จุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย โดยปกติแล้วจะเป็นหลอดเลือดแดง

อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี แต่ภาพถ่ายของ National Geographic ในปี 2009 พบว่าร่างของเธอเริ่มเปลี่ยนสภาพไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการเปลี่ยนสี เพื่อแก้ไขปัญหานี้มัมมี่จึงถูกย้ายไปอีกจุดหนึ่งที่แห้งกว่า แต่ยังคงในสุสานคาปูชินเหมือนเดิม

ตำนานมัมมี่ลืมตา

มัมมี่ Rosalia Lombardo มีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีกเมื่อมีข่าวลือว่าเธอสามารถเปิดและปิดตาได้เองหลายครั้งต่อวัน เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าที่ยังคงไม่บุบสลาย

อย่างไรก็ตาม Piombino-Mascali นักมานุษยวิทยาอธิบายว่า มันเป็นภาพลวงตาที่เกิดจากแสงที่กรองผ่านหน้าต่างด้านข้างซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดทั้งวัน ประกอบกับการที่ตาของเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้ปิดสนิทอยู่แล้วตั้งแต่แรก จึงทำให้บางครั้งดูเหมือนว่าเธอหลับตา แต่บางครั้งเธอกลับลืมตา

ภายหลังทางสุสานได้เปลี่ยนกระจกที่โลงศพของเธอซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันเชื้อราและแบคทีเรียแล้ว ยังช่วยป้องกันการหักเหของแสงที่ตกกระทบลงบนใบหน้าของเธอ เพื่อไม่ให้เกิดภาพลวงตาที่จะลือกันว่าเธอลืมตาได้อีก

สุสานใต้ดินกาปูชิน

เป็นสุสานใต้ดินในเมืองปาแลร์โม ในซิซิลี ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ซึ่งเดิมใช้สำหรับเก็บศพของเหล่าไฟรเออร์หรือนักบวชคาทอลิก แต่ในคริสต์ศตวรรษต่อ ๆ มาการมีศพไว้ในสุสานใต้ดินของนักบวชกาปูชินชินก็ถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะ ผู้มีฐานะดีก็จะทิ้งพินัยกรรมไว้ให้รักษาร่างของตนไว้ในเครื่องแต่งกายที่ระบุไว้ หรือบางครั้งก็ถึงกับสั่งว่าให้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นระยะๆ ส่วนค่าบำรุงรักษาสุสานใต้ดินก็มาจากเงินอุทิศของญาติพี่น้องผู้ที่มีร่างอยู่ในสุสาน

Photo: Rosalia Lombardo/Wikipedia