posttoday

สมบัติของชาติ ‘เอ็มบัปเป้’ เลือดใหม่เตรียมผลัดหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

19 ธันวาคม 2565

ถือเป็นค่ำคืนสุดขมขื่นสำหรับกองเชียร์ทีมชาติฝรั่งเศส และดาวรุ่งแห่งยุค ‘คีเลียน เอ็มบัปเป้’ ที่ถึงจะทำแฮทริกให้ทีมตราไก่และคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ (Golden Boot award) ได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการพาฝรั่งเศสคว้าชัยในศึกฟุตบอลโลก 2022

หลังจากอาร์เจนติน่าคว้าชัยผงาดครองแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ ตำนานแห่งทีมฟ้า-ขาว ‘ลิโอเนล เมสซี่’ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง แต่ทางด้าน ‘คีเลียน เอ็มบัปเป้’ ดาวรุ่งแห่งยุคจากทีมชาติฝรั่งเศสก็ถือเป็นที่น่าจับตามองไม่น้อย 

จากการแข่งขันรอบตัดเชือกในฟุตบอลโลก 2022 เอ็มบัปเป้ยิงจุดโทษช่วยทีมให้ตีตื้นอาร์เจนติน่าด้วยสกอร์ 3-3 ส่งผลให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะคนที่ 2 ที่ทำแฮตทริกได้ในศึกฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ หลังจาก เจฟฟ์ เฮิร์สต์แข้งทีมชาติอังกฤษเคยทำไว้ในปี 1966 

สมบัติของชาติ ‘เอ็มบัปเป้’ เลือดใหม่เตรียมผลัดหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

นอกจากจะยิงไปทั้งหมด 8 ประตูตลอดทัวร์นาเมนต์ จนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ (Golden Boot award) สถิตินี้ของ ‘คีเลียน เอ็มบัปเป้’ ยังเทียบเท่ากับโรนัลโด้ ดาวยิงแห่งแดนแซมบ้าที่เคยทำได้ในปี 2002 เอ็มบัปเป้ยังถือเป็นดาวรุ่งที่สามารถพาฝรั่งเศสลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลกได้อีกอย่างน้อย 2-3 สมัย

เมื่อเทียบกับนักเตะจากชาติเดียวกันแล้ว สถิติการยิง 8 ประตูของเอ็มบัปเป้เป็นรองเพียง ฌุสต์ ฟงแตน (Just Fontaine) ที่ยิงไปทั้งหมด 13 ประตูจากการลงเล่นเพียง 6 นัดในปี 1958

ทางด้านประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ‘เอ็มมานูเอล มาครง’ ยังลงมาในสนามหลังจบเกม พร้อมกอดปลอบสุดยอดดาวรุ่งวัย 23 ปีรายนี้ว่าเป็น ‘สมบัติของชาติ’ นอกจากนี้นายมาครงยังให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาเข้าไปปลอบใจผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศสอีกหลายคนในห้องแต่งตัวพร้อมบอกพวกเขาว่า “พวกนายเป็นความภาคภูมิใจของเรา”

สมบัติของชาติ ‘เอ็มบัปเป้’ เลือดใหม่เตรียมผลัดหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

มาครงชื่นชมในผลงานที่ “ไม่ธรรมดา” ของเอ็มบัปเป้ พร้อมย้ำว่าเขาอายุเพียง 24 ปี และมีประสบการณ์ที่หาได้ยากในการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้ง

แม้ว่าจะต้องพ่ายแพ้แต่ฝรั่งเศสจะให้การต้อนรับการเดินทางกลับของแข้งทีมชาติในวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค. โดยจะจัดขบวนพาเหรดไปตามถนน Champs-Elysees ในกรุงปารีส 

‘คีเลียน เอ็มบัปเป้’ เริ่มแจ้งเกิดในฐานะแข้งทองแห่งยุคตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี กับสโมสรโมนาโก ก่อนจะย้ายร่วมทีมปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และได้แจ้งเกิดก้าวสู่การเป็นผู้เล่นระดับโลกเต็มตัวด้วยสถิติการทำ 76 ประตูในลีกตลอด 4 ฤดูกาล

ด้วยสปีดและความคล่องตัวที่หาตัวจับยาก รวมถึงเทคนิคต่างๆที่ไม่เป็นสองรองใคร เอ็มบัปเป้จึงเป็นที่จับตาจากหลายฝ่ายว่าจะขึ้นมาแทนที่ตำนานแห่งยุคหากเมสซี่หรือโรนัลโด้ อำลาวงการลูกหนังไป