สุดยอดเทรนด์เทคโนโลยี 2023 คาดเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมในอนาคต
โครงการวิจัยระดับโลกโดยอาลีบาบา กรุ๊ป เผยแนวโน้มเทรนด์เทคโนโลยีปี 2023 ที่อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆในอนาคต
10 เทรนด์เทคโนโลยีที่ทาง ‘Alibaba DAMO Academy (DAMO)’ คาดว่าจะเข้ามามีบทบาทและเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ มีดังนี้
- เอไอแบบรู้สร้าง (Generative AI)
Generative AI ได้รับความสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกเพื่อนำไปต่อยอดการเปลี่ยนผ่านวิธีการผลิตเนื้อหาดิจิทัล เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว Generative AI ยังสามารถเพิ่มความหลากหลายในด้านความคิดสร้างสรรค์ ที่ช่วยชูประสิทธิภาพของการสร้างคอนเทนต์ได้
- การตัดสินใจที่ชาญฉลาดด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการและแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Dual-engine Decision Intelligence)
เมื่อการแก้ปัญหาที่มีความไม่แน่นอนสูงทำให้การดำเนินการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างล่าช้า การเข้ามาของ Machine Learning อย่าง Dual-engine Decision Intelligence จะช่วยจัดสรรทรัพยากรการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินงานของธุรกิจต่างๆได้อย่างเหมาะสมแบบเรียลไทม์ เช่น การกำหนดจุดจอดในสนามบิน การจ่ายไฟฟ้าแบบเรียลไทม์
- ระบบความปลอดภัยที่รองรับการประมวลผลบนคลาวด์ (Cloud-native Security)
นอกจากเรื่องความปลอดภัย Cloud Computing ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนรูปแบบไปสู่ดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ คาดว่า 3-5 ปีหลังจากนี้ การรักษาความปลอดภัยแบบ Cloud-native Security จะมีความหลากหลาย ครบวงจร แม่นยำ และถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น
- โมเดลโครงสร้างสำเร็จรูปหลากหลายที่ผ่านการเทรนด์มาแล้ว (pre-trained multimodal foundation models)
ในอนาคต foundation models จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบ AI ที่ใช้ทำงานต่าง ๆ เช่น รูปภาพ ข้อความ และเสียง เพื่อส่งเสริมศักยภาพระบบ AI ให้นำเสนอความรู้ตามกรอบการเรียนรู้ และส่งเสริมให้มีความสามารถด้านสติปัญญาในการให้เหตุผลและการตอบคำถาม การสรุป
5. สถาปัตยกรรมคลาวด์คอมพิวติ้งที่รวมฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์
Cloud Infrastructure Processor (CIPU) เป็นศูนย์กลางสถาปัตยกรรมคลาวด์คอมพิวติ้งที่ใช้ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วในการทำงานและควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์ CIPU จะกลายเป็นมาตรฐานของคลาวด์คอมพิวติ้งที่ได้รับการยอมรับในอนาคต และช่วยสร้างโอกาสด้านการพัฒนาใหม่ ๆ
6. โครงสร้างที่คาดการณ์ได้บน Edge-Cloud Synergy
โครงสร้างที่คาดการณ์ได้ (predictable fabric) เป็นระบบที่มีจุดประสงค์นำเสนอบริการเน็ตเวิร์กที่มีประสิทธิภาพสูง และเป็นเทรนด์ที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะความสามารถด้านคอมพิวติ้งและเน็ตเวิร์กในปัจจุบันค่อย ๆ รวมตัวเข้าด้วยกัน predictable fabric จะเข้ามาแทนที่สถาปัตยกรรมเน็ตเวิร์ก TCP แบบดั้งเดิม และกลายเป็นส่วนหนึ่งของเน็ตเวิร์กหลักในดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นต่อไป
7. การสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์ (Computational Imaging)
การสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์ (computational imaging) เป็นเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามาปฏิวัติการถ่ายภาพแบบดั้งเดิม เพราะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลสนามแสงเชิงลึกที่ไม่เคยทำได้มาก่อนได้ ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้แล้วในวงกว้าง เช่น การถ่ายภาพทางการแพทย์ หรือยานยนต์อัตโนมัติ
8. ชิปเล็ต (Chiplet)
ชิปเล็ตหรือชิปขนาดย่อย (chiplet) จะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการวิจัยและเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมชิป เนื่องจากช่วยให้ผู้ผลิตสามารถแบ่งระบบต่าง ๆ ที่รวมกันอยู่บนชิปตัวเดียวออกเป็น chiplet หลายๆตัวได้ผ่านการเชื่อมต่อภายในและแพคเกจจิ้ง
9. การประมวลผลในหน่วยความจำ (Processing in Memory: PIM)
เป็นการรวมหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และหน่วยความจำไว้บนชิปเดียว ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลในหน่วยความจำได้โดยตรง ในอนาคตคาดว่า PIM จะยกระดับจากการประมวลผลเป็นศูนย์กลางแบบเดิม ไปเป็นแบบยึดข้อมูลเป็นสำคัญ ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง, AI และ IoT
10. คู่เสมือนทางดิจิทัลของเมืองใหญ่ (Large-scale Urban Digital Twins)
คาดว่าจะเป็นแนวทางใหม่ในการดูแลเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก Urban Digital Twins มีบทบาทในการพัฒนาการทำงานสำคัญด้านต่าง ๆ เช่น การดูแลการจราจร การป้องกันและจัดการภัยทางธรรมชาติ โดยในอนาคต Large-scale Urban Digital Twins จะสามารถทำงานได้ด้วยตนเองอย่างอิสระและมีหลากหลายมิติมากขึ้น