posttoday

เปรูสั่งปิด ‘มาชูปิกชู’ หวั่นอันตรายนทท. หลังม็อบไล่รฐบ.ลามทั่วประเทศ

22 มกราคม 2566

เปรูสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อันโด่งดังอย่างมาชูปิกชู (Machu Picchu) ท่ามกลางการรวมกลุ่มประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สหภาพยุโรปประณามการตอบโต้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อเหตุความไม่สงบว่าไร้ซึ่งความสมเหตุสมผล

กระทรวงวัฒนธรรมแห่งเปรูระบุในแถลงการณ์ในวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.ว่า เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทางการจึงจำเป็นต้องสั่งปิดพื้นที่ทั้งหมดของมาชูปิกชู รวมถึงเส้นทางอินคาเทรล (Inca Trail) เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้มาเยี่ยมชม อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการเร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่อีกราว 400 คน

การสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกจัดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้ เกิดขึ้นหลังการปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาลเปรู เรียกร้องให้ประธานาธิบดี Dina Boluarte ลาออก ซึ่งในขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มขึ้นเป็น 45 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย

เปรูสั่งปิด ‘มาชูปิกชู’ หวั่นอันตรายนทท. หลังม็อบไล่รฐบ.ลามทั่วประเทศ

ขณะที่สหภาพยุโรปประณามการตอบโต้ของรัฐบาลเปรูต่อเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังกับผู้ประท้วงโดยไร้ซึ่งความสมเหตุสมผล

“อียูขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองเร่งดำเนินการเพื่อคืนความสงบอย่างเร่งด่วน และต้องรับประกันว่าจะมีการเจรจาเพื่อหาทางออกของวิกฤตนี้ร่วมกับประชาชน วิกฤตการณ์ทางการเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ควรได้รับการแก้ไขภายใต้รัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชน” สหภาพยุโรประบุในแถลงการณ์

เหตุการณ์ความไม่สงบที่กินเวลาต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ เกิดขึ้นหลังจากอดีตประธานาธิบดี Pedro Castillo ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาประกาศยุบสภาในวันที่ 7 ธันวาคม โดยสภาคองเกรสได้แต่งตั้ง Dina Boluarte ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน 

ศาลของเปรูได้ดำเนินการทางกฎหมายกับ Pedro Castillo ในหลายข้อหาซึ่งรวมถึงการกล่าวหาว่าเขาเป็นกบฎและพยายามก่อรัฐประหาร

Pedro Castillo เป็นประธานาธิบดีที่ครองใจตั้งแต่ชาวรากหญ้าไปจนถึงผู้มีอำนาจทางการเมือง เขากลายเป็นสัญลักษณ์ในหมู่ชาวเปรูที่มีรายได้น้อย และการประท้วงที่ลุกลามมาจนถึงขณะนี้ล้วนมาจากฝั่งที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี